ข่าว

ส่องประวัติ ‘ท้าวดักแด้’ จากนักแสดง สู่ผู้นำเชียร์ระดับชาติ

เปิดประวัติ ท้าวดักแด้ จากนักแสดงตลกในโฆษณา ปตท. ชุด มนุษย์ตะกั่ว สู่เส้นทางผู้นำเชียร์ระดับประเทศ นำทีมเชียร์การแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2024 ที่ กรุงปารีส

วันนี้ The Thaiger จะมาแนะนำประวัติของผู้นำเชียร์คนสำคัญในวงการกีฬาไทย “ท้าวดักแด้” ซึ่งในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศของ “วิว กุลวุฒิ” เราได้เห็นเขาในชุดคอสตูมไทยประยุกต์ พร้อมถือป้ายเชียร์เขียนคำว่า “THAILAND” ในช่วงโอลิมปิกที่ปารีส 2024 และพาไปย้อนเส้นทางก่อนจะมาเป็นกองเชียร์แนวหน้าของประเทศไทย

Advertisements

เส้นทางนักแสดงตลกและบทบาทสมทบของ “ท้าวดักแด้”

ท้าวดักแด้ หรือ “ไทยแลนด์ คำทอง” (ชื่อเดิม บัญชา คำทอง) เป็นนักแสดงตลก จากโฆษณา ปตท. ชุด มนุษย์ตะกั่ว

นอกจากนี้ยังมีเป็นนักแสดงสมทบในละครพื้นบ้านเรื่อง เทพสามฤดู รับบท “มาตุลี” โดยเขาสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

'ท้าวดักแด้' จากนักแสดง สู่ผู้นำเชียร์ทีมชาติไทย
ภาพจาก สามเศียร official

จุดเริ่มต้นเข้าสู่วงการผู้นำเชียร์กีฬา

ย้อนกลับไปในช่วงเริ่มต้นของการเชียร์กีฬาไทยในระดับนานาชาติ “ท้าวดักแด้” เริ่มต้นเส้นทางของเขาในการเชียร์กีฬาในแมทช์แรกของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่จังหวัดเชียงใหม่ โดยในตอนนั้นเขาเลือกสวมชุดตะกั่วซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเขา และทำให้เขาเริ่มเป็นที่รู้จักในวงการกีฬามากขึ้น

ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ท้าวดักแด้ได้มีบทบาทเป็นคนนำเชียร์การแข่งขันกีฬาหลายประเภท เช่น ฟุตบอล วอลเลย์บอล และตะกร้อ ด้วยการนำประสบการณ์จากการเป็นผู้นำเชียร์ในกิจกรรมกีฬาสีที่โรงเรียนมาปรับใช้ รวมถึงความรักในกีฬาและความมุ่งมั่นที่เขามีมาตั้งแต่เด็ก

ในปี 2008 เมื่อถึงเวลาการแข่งขันเอเชียนบีชเกมส์ ท้าวดักแด้ก็ความทุ่มเทและดิ้นรนหาทุนทรัพย์เพื่อเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขันพร้อมกับทีมเชียร์ของเขา และแม้ว่าเขาจะไม่มีสถานที่พักที่แน่นอน แต่เขาก็ใช้แผนกครัวของบีชเกมส์เป็นที่พักพิงในระหว่างการแข่งขัน

Advertisements
'ท้าวดักแด้' จากนักแสดง สู่ผู้นำเชียร์ทีมชาติไทย
ภาพจาก Thailand Dakdae (ป๋าแด้เด้อ)

ต่อมาในปี 2010 สำหรับเอเชียนเกมส์และเอเชียนพาราเกมส์ ท้าวดักแด้ได้สร้างผลงานที่น่าจดจำด้วยการออกอัลบั้มชุด “สีมัคคา สามัคคี” เพื่อเป็นทุนสำหรับการเดินทางร่วมเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยที่ประเทศจีน

นอกจากนี้ เขายังมีส่วนร่วมในการเชียร์นักกีฬาทีมชาติไทยในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 ร่วมกับโดโด้ แขนควง ด้วยชุดแต่งกายแบบไทยสมัยโบราณที่เป็นเอกลักษณ์ ตลอดจนมีรูปแบบการเชียร์ที่สนุกสนาน ซึ่งมีส่วนช่วยในการให้กำลังใจต่อนักกีฬาทีมชาติไทย ตลอดจนได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ รวมถึงได้รับการเผยแพร่ผ่านทางสถานีโทรทัศน์เพื่อกีฬาโอลิมปิก หรือโอลิมปิกแชนแนล

'ท้าวดักแด้' จากนักแสดง สู่ผู้นำเชียร์ทีมชาติไทย
ภาพจาก Thailand Dakdae (ป๋าแด้เด้อ)

อยากเป็นนักกีฬา แต่ความสามารถไม่ถึง ขอเป็นกองเชียร์ข้างสนามแล้วกัน

ท้าวดักแด้ เล่าถึงช่วงแรกของการเชียร์ทีมชาติไทยอย่างเต็มที่ว่า เขาต้องแบกรับค่าใช้จ่ายทั้งหมดด้วยตัวเอง ต้องขายรถและจำนำของใช้เพื่อหารายได้ในการเดินทาง หากเงินไม่พอก็ต้องใช้วิธีประหยัดอย่างถึงที่สุด โดยบ้างครั้งเขาต้องหาที่นอนในวัดไทยในต่างประเทศ หรือนอนที่บ้านของคนไทย หรือแม้แต่ร้านอาหารไทยที่เปิดให้เขาพักชั่วคราว

ในบางครั้งที่หาที่พักไม่ได้ ท้าวดักแด้ก็ต้องอาศัยนอนกับพี่น้องนักข่าว ซึ่งมีเหตุการณ์หนึ่งที่เขาไปเชียร์เอเชียนเกมส์ที่เกาหลีใต้ และต้องแอบไปนอนกับนักข่าว ในกรณีที่เตียงไม่พอ เขาจึงต้องหลบไปนอนในตู้เสื้อผ้า โดยใช้หัวซุกเข้าไปในนั้นเพื่อให้พอดีกับพื้นที่

นอกจากนี้ เมื่อไปเชียร์การแข่งขันบางครั้งที่อาหารแพงมาก ท้าวดักแด้จะขอแบ่งข้าวจากนักกีฬา หรือขนอาหารเช้าจากโรงแรมใส่ย่ามกลับมา ทำให้พนักงานโรงแรมสงสัยว่าอาหารไปไหนหมดอย่างรวดเร็ว เขาทำทุกอย่างที่สามารถประหยัดได้เพื่อให้การเชียร์ดำเนินต่อไป

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปและเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้น ท้าวดักแด้ได้รับการสนับสนุนจากผู้ใหญ่ใจดีที่ช่วยเหลือในเรื่องค่าใช้จ่าย ทำให้การเดินทางไปเชียร์และกิจกรรมต่างๆ เป็นไปได้อย่างราบรื่นมากขึ้น

การเดินทางและการเชียร์ของท้าวดักแด้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความทุ่มเทและความรักชาติที่มีอยู่เต็มเปี่ยม เขาทำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสนับสนุนทีมชาติไทย แม้จะต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย

'ท้าวดักแด้' จากนักแสดง สู่ผู้นำเชียร์ทีมชาติไทย
ภาพจาก Thailand Dakdae (ป๋าแด้เด้อ)

แม้จะเหนื่อยหรือลำบากแต่ด้วยใจรักยังไงก็ขอเป็นผู้นำเชียร์ต่อ

ท้าวดักแด้ได้เปิดใจกับสื่อว่า ทำไมเขาถึงยังไม่เลิก ทั้งที่ต้องเผชิญกับความลำบากมากมาย ด้วยความที่เขาทำงานเชียร์ทีมชาติไทยมานานกว่า 20 ปีแล้ว เริ่มต้นตั้งแต่ซีเกมส์ที่เชียงใหม่ในช่วงที่เขายังเป็นนักเรียนที่มหาวิทยาลัยรามคำแหง ความฝันของเขาคือการเป็นนักกีฬา แต่เมื่อพบว่าความสามารถไม่ถึง ก็ได้ตัดสินใจเลือกเป็นกองเชียร์ข้างสนามแทน

ท้าวดักแด้เล่าต่อไปว่า แม้เขาจะเริ่มจากความตั้งใจเพียงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนทีมชาติ แต่เมื่อเริ่มทำไปแล้ว เขากลับรู้สึกเหมือนลงจากหลังเสือไม่ได้ ทุกครั้งที่มีการแข่งขันกีฬาของทีมชาติไทย เขาก็จะไปเชียร์ที่นั่นเสมอ ไม่เว้นแม้แต่การแข่งขันกีฬาคนพิการ เขายังได้รับคำชมจากนักกีฬาตาบอดว่า เสียงเชียร์ของเขาช่วยเติมกำลังใจให้กับพวกเขาได้จริงๆ

ในปัจจุบัน ท้าวดักแด้ได้รับเกียรติให้ดำรงตำแหน่งกรรมการสมาคมกีฬาคนพิการทางปัญญาแห่งประเทศไทย และเป็นอนุกรรมาธิการการกีฬาวุฒิสภา นี่คือการรับรู้ถึงความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของเขาในการสนับสนุนกีฬาทั้งในระดับชาติและระดับพาราลิมปิก

ความรักและความมุ่งมั่นของท้าวดักแด้ในการเชียร์กีฬาเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญสำหรับทั้งนักกีฬาและแฟนกีฬา โดยเขายังคงยืนหยัดและทุ่มเทเพื่อทีมชาติไทยอย่างไม่หยุดยั้ง

'ท้าวดักแด้' จากนักแสดง สู่ผู้นำเชียร์ทีมชาติไทย
ภาพจาก Thailand Dakdae (ป๋าแด้เด้อ)

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

อ้างอิง : wikipedia

somkiar

นักเขียนสายรีวิว ดีกรีแอดมินเพจ ชอบเล่าเรื่องผ่านตัวอักษร เนิร์ดหนังและซีรีส์ตัวพ่อ เอนจอยการถ่ายรูปและงานนิทรรศการ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button