แห่แชร์คำสอน โค้ช วิวกุลวุฒิ พูดในรอบชิง ไม่ได้ทอง แต่ล้ำค่ามาก
มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นแหละ เปิดคำสอน โค้ชเป้ ภัททพล หัวหน้าผู้ฝึกสอนแบดมินตัน วิว กุลวุฒิ พูดในเกมชิงชนะเลิศแบดมินตัน โอลิมปิก 2024 ผู้ปิดทองหลังพระ เบื้องหลังความสำเร็จเหรียญเงินประวัติศาสตร์ ทัพนักตบลูกขนไก่ทีมชาติไทยตัวจริง
ปฏิเสธไม่ได้ว่า กระแส วิว กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักแบดมินตันทีมชาติไทย ที่คว้าเหรียญเงินแบดมินตันโอลิมปิกเกมส์ “ปารีส 2024” พร้อมกับสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการนักตบลูกขนไก่ไทย กำลังเป็นที่พูดถึงและสร้างความยินดีให้กับกองเชียร์และประชาชนจำนวนมาก
อย่างไรก็ดี เบื้องหลังของความำสเร็จหนนี้นอกจากความสามารถและทักษะของนักแบดมินตัน วัย 23 ปีแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าสตาฟ์โค้ชและทีมงานเบื้องหลัง โดยเฉพาะ “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข ผู้ฝึกสอนที่มักจะปรากฎภาพเข้าไปคอยติวลูกศิษย์คนเก่งในทุกครั้งที่ภาพตัดออกมาตอนขอเวลานอก
ชำแหละสารข้างสนาม โค้ชเป้ ทำงานหนักเบื้องหลัง เพื่อฉากหน้าควาสำเร็จ วิว กุลวุฒิ
ด้วยภาพที่ชินตาประกอบกับความสำเร็จที่จับต้องได้ ล่าสุด เฟซบุ๊กแฟนเพจ “เลี้ยงลูกตามใจหมอ” ก็ได้รวบรวมประโยคกำลังใจที่เฮดโค้ชผู้นี้ ซึ่งคอยทั้งให้กำลังใจ ส่งเสริมและสรรค์สร้าง ตลอดจนผลักดันลูกศิษย์หัวแก้วหัวแหวนของเขาตลอดทัวร์นาเมนต์ ณ กรุงปารีส
ทางเพจโปรยหัวด้วยประโยคที่ว่า “คำพูดที่ทำให้เรารู้สึกปลอดภัย ในสถานการณ์ที่กดดัน” จากนั้นจึงยกตัวอย่างคำพูดของโค้ชเป้ อาทิ
“มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นแหละ”
“มันก็แค่เกมนึงแหละวะ ใช่ไหม”
“พี่บอกแล้วไง เอ็งจะหาประสบการณ์แบบวันนี้ไม่ได้แล้ว เอ็งจะแพ้หรือชนะไม่เป็นไร เอ็งเอาความรู้ ความรู้สึก วิธีคิดวิธีเล่นเอาไปใช้ เขาคือสุดยอด เราต้องเรียนรู้จากเขาใช่ปะ”
คำกล่าวเหล่านี้เป็นคำพูดของ ‘โค้ชเป้’ ที่พูดกับ วิว กุลวุฒิ นักแบดมินตันชาวไทยที่เพิ่งคว้าเหรียญเงินเหรียญประวัติศาสตร์ในรอบ 32 ปีของวงการแบดมินตันไทยจากโอลิมปิก ที่ปารีส
”มันไม่เกี่ยวกับใครทั้งนั้นแหละ“ คือ คำกล่าวตอนที่วิวต้องเจอกับมือหนึ่งของโลกจากจีนอย่าง ฉือ หยู่ฉี ในรอบแรก ๆ ของการแข่งขันโอลิมปิก ตอนนั้นวิวเสียคะแนนติดต่อกันในเกม … จนโค้ชเป้กล่าวประโยคนี้กับวิว จนในที่สุดเขาก็คว้าชัยชนะมาได้
”มันก็แค่เกมนึงแหละวะ ใช่ไหม“ คือ คำกล่าวตอนที่วิวต้องเจอกับมือ 7 ของโลกจากมาเลเซียในวันที่วิวกำลังได้เปรียบคู่แข่งอยู่ คำพูดที่ดึงสติของวิวให้กลับมาโฟกัสกับตัวเองว่า ”มันก็คือการแข่งขันธรรมดา ๆ เกมหนึ่ง ก็เท่านั้น” ทำอย่างที่เคยทำ เล่นอย่างที่เคยเล่น ไม่ต้องกดดันอะไรมากมาย … ไม่มีคำพูดปลุกใจที่กดดันจนเกินไป ราวกับว่า โค้ชเชื่อมั่นในตัวของเขาอย่างสนิทใจว่าเขาจะทำมันได้อย่างดี
“พี่บอกแล้วไง เอ็งจะหาประสบการณ์แบบวันนี้ไม่ได้แล้ว เอ็งจะแพ้หรือชนะไม่เป็นไร เอ็งเอาความรู้ ความรู้สึก วิธีคิดวิธีเล่นเอาไปใช้ เขาคือสุดยอด เราต้องเรียนรู้จากเขาใช่ปะ”
คือคำกล่าวของโค้ชเป้เมื่อคืนขณะที่เขาต้องเจอกับ วิคเตอร์ อเซลเซ่น ที่กำลังทำคะแนนออกห่างวิวไปทุกที … คือแบบว่า เก่งบ้าบอมาก แขนยาวขายาว เก็บได้ทุกเม็ด อีตานี่อิหยังนี่ สู เก่งเกินนะ 555 นึกสภาพเราต้องแข่งกับคนที่เก่งมาก ๆ รู้ทันรู้ทางเราไปเสียหมด เราพลาด เขาไม่พลาดเลย หลายคนคงหมดกำลังใจที่จะแข่งไปแล้ว ไหนจะต้องแบกรับความคาดหวังจากคนไทยทั้งประเทศอีก
ตัดภาพมาที่โค้ชเป้ ภายนอกชิลมาก มีรอยยิ้มให้เสมอ ไม่มีอารมณ์เสีย ไม่ตะคอก ไม่แว๊ด ไม่ดุด่าอะไรด้วยซ้ำ “เอ็งเอาความรู้ ความรู้สึก วิธีคิด วิธีเล่นเอาไปใช้ เขาคือสุดยอด เราต้องเรียนรู้จากเขาใช่ป่ะ”
เล่นเพื่อเรียนรู้ มิใช่เพียงเพื่อเอาชนะเท่านั้น แม้ก็รู้ในใจว่าเราอยากชนะเหลือเกิน เพราะชัยชนะคือสิ่งหอมหวาน และการพ่ายแพ้คือยาขม เราจะโอบรับผลของยาขมนั้นแล้วเติบโต เก่งขึ้น หรือจะแค่ตีโพยตีพายกับความขมของยา เราเลือกได้เอง
สิ่งเหล่านี้พูดง่ายแต่ทำยาก เพราะการพ่ายแพ้นั้นโหดร้ายกับใจที่อ่อนแอ แต่คงไม่ใช่กับวิว กุลวุฒิ มิใช่เพราะได้เหรียญเงินมาครอบครองแล้ว ใจจึงไม่เป็นไร แต่หากเพราะวิวคงรู้ว่า สุดท้ายแล้วเขาจะมีพื้นที่ปลอดภัยอย่างโค้ชและครอบครัวเป็นที่พักพิงใจในวันที่เขาผิดหวังและอ่อนแอ
เพราะกว่าจะชนะมาถึงตรงนี้ วันที่ได้เหรียญเงินโอลิมปิก วิวต้องเจอกับความขมของความพ่ายแพ้ และความหอมหวานของชัยชนะมานับครั้งไม่ถ้วน และเขาก็ผ่านมันมาได้อย่างดี อีก 4 ปีรอเชียร์วิวอีกครั้ง.
อ่านข่าวโอลิมปิกเกมส์ 2024 เพิ่มเติม