ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกันยายน เกิดเหตุรถชนบนทางด่วน ทำให้มีผู้ถูกชนกระเด็นตกลงมาจากทางด่วนเสียชีวิต เหตุเกิดขณะที่มีผู้ใช้รถแวนยี่ห้อ KIA จอกเสียอยู่บริเวณช่วงก่อนถึงทางลง ซ.สุขุมวิท 50 มีหญิงสองคนขับมา โดยมีรถจักรยานยนต์ตำรวจจราจรทางด่วนจออกให้ความชาวยเหลืออยู่ ทันใดนั้นได้มีรถฟอร์จูนเนอร์ สีขาว ได้แซงซ้ายมาด้วยความเร็ว และพุ่งชนท้ายรถแวนเข้าอย่างจัง ทำให้รถกระแทกร่างคนขันรถแวนที่ยืนอยู่หน้ารถกระเด็นตกทางด่วนเสียชีวิต
ล่าสุดเหตุการณ์คล้ายๆกันได้เกิดขึ้นอีกครั้งเมื่อมีรถเบนซ์พุ่งชนปิคอัพขนเฟอร์นิเจอร์ที่จอดเสียบนไหล่ทาง ชายที่มากับรถปิคอัพถูกชนกระเด็นตกจากทางด่วนเสียชีวิต 
ผู้เห็นเหตุการเล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้มีรถขอนเฟอร์นิเจอร์ของบริษัท SB จอดเสียอยู่ไหล่ทาง และมีชายสองคนยืนอยู่บริเวณนั้นด้วยซึ่งคาดว่าจะเป็นพนักงานที่มากับรถ หลังจากนั้นก็มีรถเก๋งยี่ห้อ เบนซ์ สีดำ วิ่งมาด้วยความเร็ว และชนท้ายรถปิคอัพที่จอดเสียอยู่อย่างจัง ทำให้พนักงานคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆรถถูกชนกระเด็นตกลงด้านล่างเสียชีวิตสองคน ทราบว่าในรถเก๋งคันดังกล่าวมีผู้นั่งมา 2 คน เป็นหญิงสูงอายุ 1 คน อีกคนอายุประมาณ 30 ปี 
นายวินิจจัย ชลานุเคราะห์ กูรูเทคโนโลยียานยนต์ เผยว่า การขับรถด้วยความเร็วในช่องริมซ้านสุด ซึ่งเป็นไหล่ทางที่ใช้สำหรับจอดหรือขับด้วยความเร็วต่ำ ถือว่าผิดกฏหมาย นายวินิจจัยยังแนะนำอีกว่า หากรถเสียบนทางด่วนควรเปิดไฟฉุกเฉินให้สัญญาณรถด้านหลัง และควรดึงเบรคมือเพื่อกันรถไหลมาชนตัวเรา และหากลงจาดรถก็ควรยืนให้ห่างจากรถอย่างน้อย 50 เมตรและไม่ควรยืนด้วนหลังรถเนื่องจากรถที่แซงมาทางด้านซ้ายอาจชนคนก่อนชนรถที่จอกอยู่
รายละเอียดเพิ่มเติม : Khaosod.co.th
