ข่าวภูมิภาค

หนุ่มระนองคิดสั้น ตัดสินใจใช้เชือกไนล่อนผูกคอในห้องเช่าช่วงรุ่งสาง

ภูเก็ต – หนุ่มระนองคิดสั้น ตัดสินใจใช้เชือกไนล่อนผูกคอในห้องเช่าช่วงรุ่งสาง ขณะภรรยานอนหลับ คาดสาเหตุเกิดจากระแวงกลัวภรรยานอกใจ

เมื่อเวลาประมาณ 08.30 น.วันที่ 8 ธ.ค.61 พ.ต.ท.สมคิด อ่อนจันทร์ สารวัตร(สอบสวน)สภ.เมืองภูเก็ตได้รับแจ้งเหตุคนผูคอตายภายในห้องเช่า ซอยเกาะแก้ว 23 ห่านฝรั่ง หมู่4 ต.เกาะเเก้ว อ.เมืองภูเก็ต หลังรับเเจ้งจึงพร้อมด้วยผู้ใหญ่บ้านและ เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตเข้าตรวจสอบ

Advertisements

ที่เกิดเหตุอยู่ภายในห้องครัวหลังบ้าน พบศพผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายดำรง หมานจิตร อายุ 27 ปี ชาว ต.ม่วงกลวง อ.กะเปอร์ จ.ระนอง โดยถูกช่วยเหลือด้วยการตัดเชือกก่อนนำร่างลงมาวางที่พื้น สภาพศพสวมกางเกงขาสั้น ไม่สวมเสื้อ ที่ลำคอมีรอยรัด ส่วนที่ผนังพบเขือกไนล่อนสีขาวผูกปมร้อยติดกับช่องระบายอากาศ มีร่องรอยการตัด

เจ้าหน้าที่จึงเก็บหลักฐานก่อนให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ตนำร่างผู้เสียชีวิตส่งชันสูตรยังโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต ก่อนมอบให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาอิสลามที่จ.ระนอง

สอบถาม น.ส.กัตติกา จิตจำ อายุ 22 ปีภรรยา เปิดเผยว่า นายดำรง ทำงานเป็นช่างถ่ายภาพกรุ๊ปทัวร์ของบริษัททัวร์แห่งหนึ่งบนเกาะราชา แต่งงานอยู่กินกันมา มีลูกด้วยกัน 2 คน ก่อนเกิดเหตุไม่เคยมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งอะไร และเข้านอนตามปกติ กระทั่งเมื่อเวลา 03.00 น.ที่ผ่านมา นายดำรงตื่นมาถามตนเองว่า รักและเป็นห่วงเขาหรือไม่ ตนเองก็ตอบไปว่ารักและเป็นห่วง ก่อนตนจะหลับไป

เมื่อตื่นขึ้นมาตอนเช้าในเวลาประมาณ 08.30 น.ก็ไม่เห็นนายดำรงในห้อง จึงเดินไปหลังบ้านพบว่านายดำรงผูกคอตายห้อยอยู่ริมผนัง จึงรีบไปตามคนมาช่วย ก่อนใช้กรรไกรตัดเชือกไนล่อนและนำร่างนายดำรงลงมาแต่ไม่ทัน พบว่านายดำรงเสียชีวิตแล้วจึงแจ้งเจ้าหน้าที่

ด้านเพื่อนชายของนายดำรงระบุว่า นายดำรงเป็นคนจิตใจดี ชอบช่วยเหลือเพื่อน ก่อนเสียชีวิต ในช่วงค่ำของวันที่ 7 ธ.ค.61 ที่ผ่านมา ขณะมาส่งที่บ้านก็ยังเป็นปกติไม่แสดงอาการใดๆและยังโบกมือทักทายแสดงความขอบใจเพื่อน

Advertisements

ขณะที่เพื่อนชายอีกคนระบุว่า สาเหตุอาจเกิดจากความระแวงว่าภรรยาจะนอกใจ เพราะผู้ตายเคยพูดกับตนเองว่าจะไปแอบดูภรรยาที่ทำงาน ซึ่งตนเองคิดว่าอาจเป็นการหึงหวงจนเกิดความระแวงเข้าใจผิด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะเร่งสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุอีกครั้ง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button