พาชมโมเมนต์สุดฟินของ มิว ศุภศิษฏ์ และตุลย์ ภากร จากรายการ My Ambulove ที่พร้อมตอบทุกคำถาม ชัดทุกประเด็นในความสัมพันธ์!
นักแสดงหนุ่มหล่อ มิว ศุภศิษฏ์ จงชีวีวัฒน์ ได้ให้สัมภาษณ์ในวันที่ 30 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยเผยสถานะของเขาและตุลย์ ภากร ธนศรีวนิชชัย ว่า “เป็นคนที่รักกันมาก ๆ” ซ้ำยังแซวเล่นกับสื่อมวลชนด้วยว่า “หรือจะให้เรียกคู่หมั้นดี” และเมื่อถูกถามต่อว่าเปิดตัวกันหรือยัง เจ้าตัวก็ตอบว่าให้ไปดูจากรายการของ 3 ยูทูบเบอร์สาว ก้อย นัตตี้ ดรีม ทั้งยังทิ้งท้ายว่า “วันหนึ่งถ้าทุกอย่างพร้อม ก็น่าจะแต่งงานกันเร็ว ๆ นี้” เล่นเอาแฟนคลับได้ยินแล้วต้องเขินตาม
วันนี้เราจึงพาทุกคนมาย้อนดูโมเมนต์สุดน่ารักของ มิว-ตุลย์ จากรายการ My Ambulove ซึ่งคำตอบและการกระทำต่าง ๆ ที่แสดงออกอย่างชัดเจนในรายการนี้ จะทำให้หลายคนหมดความสงสัยในความสัมพันธ์ของทั้งคู่อย่างแน่นอน
โมเมนต์ตอนเจอกันครั้งแรก
ก่อนเริ่มรายการ พิธีกร 3 สาวได้ถาม มิว ศุภศิษฏ์ เกี่ยวกับลักษณะของคนที่ชอบ โดยมิวได้ตอบว่า “อยากอยู่กับคนที่รู้สึกสบายใจ คนที่ถ้าอายุ 60-70 ก็ยังอยู่ด้วยกันได้” จากนั้นจึงเล่าเรื่องราวการเจอกันครั้งแรก ระหว่างเขากับตุลย์ที่เรียกได้ว่าพรมลิขิตบันดาลชักพาสุด ๆ เพราะแม้ว่าจะแยกย้ายกันไปเติบโตกว่า 10 ปีแต่สุดท้ายก็กลับมาเจอกัน และได้เริ่มต้นสานสัมพันธ์ในสถานะที่รู้ใจกันมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ตุลย์ยังได้แอบเล่าถึงโมเมนต์ที่มิวน้ำตาซึมตอนไปส่งตนเองที่สนามบินเพื่อไปเรียนต่อด้วย
“เจอกันแรกเพราะไปช่วยงานเพื่อนที่คณะศิปกรรม จุฬาฯ และตุลย์ก็ไปเดินแบบให้รุ่นพี่เหมือนกัน สถานการณ์คือเก้าอี้มีเยอะมาก แต่อยู่ ๆ เขาก็มานั่งข้าง ๆ”
“ตอนนั้นหลังเวทีไม่ค่อยมีใคร ทีนี้ก็เจอรุ่นพี่คนหนึ่ง ตอนนั้นเขาชื่อ “นิว” วิศวะ ม.เกษตรฯ ผมนั่งที่อื่นมานานแล้ว แล้วมันเหงาปากก็เลยมานั่งตรงนี้”
“สรุปก็คือเราอยู่ด้วยกันทั้งวันครับ”
“เรากลับมาคุยกันมากขึ้นช่วงถ่ายซีรีส์เพราะอยู่ในวงการเดียวกัน พอมีเรื่องอะไรก็ส่งข้อความไปยินดีให้กัน
จากนั้น เริ่มติดต่อกันมากขึ้น ช่วงที่ตุลย์ไปเรียนต่อที่อเมริกา”
“เหมือนตอนนั้นเขาโปรดิวซ์ซีรีส์เรื่องหนึ่ง แล้วเลือกเราเป็นนักแสดง จากนั้นก็ได้แชร์เรื่องราวต่าง ๆ ในชีวิต ช่วงที่หายกันไปเกือบ 10 ปี พอถ่ายจบวันสุดท้ายผมก็ไปเรียนเลย”
“ตอนนั้นก็รู้สึกโหวง ๆ นิดนึง ช่วงที่เขาอยู่อเมริกาเราก็บินไปหาประมาณ 3 รอบ ”
ตำนานพ่อหนุ่มคลั่งรัก
เมื่อโดนถามว่าคลั่งรักกันไหม มิวรีบตอบทันทีว่า “เป็นคนคลั่งรักที่สุด” พร้อมยอมรับว่าในความสัมพันธ์นี้เขาเป็นคนที่คลั่งรักมากกว่า แม้ว่าภายนอกจะดูไม่แสดงออกก็ตาม ทั้งยังเอ่ยปากอีกหวานความหวานของคู่เราเต็ม 10 ทุกวัน จนหนุ่มตุลย์เขินจนต้องเอามือปิดหน้า
“ถ้าอยู่ข้างนอกผมจะนิ่ง เขาจะดูแสดงออกมากกว่า แต่พออยู่ด้วยกันผมจะแสดงออกมากกว่า”
อวัยวะที่จับทุกคืนก่อนนอน
อีกโมเมนต์ที่หลายคนนำมาแซว มิว ศุภศิษฏ์ จนถึงวันนี้คือเกมหลับตาทายอวัยวะ ที่ตุลย์ ภากร นำแก้มมาแนบที่มือมิว แล้วมิวตอบว่าเป็น “อวัยวะที่จับทุกคืน” ซึ่งทำเอาพิธีกรสาวทั้ง 3 คนเขินจนกรี๊ดลั่นรถ ไม่ต่างจากแฟนคลับของคู่นี้ที่เขินไปตาม ๆ กัน และยอมแพ้ให้กับความคลั่งรักโดยไม่ปิดบังของมิว
ชอบที่รักเพราะที่รักน่ารักไงครับ
ในเกม “ฉันชอบคุณเพราะ” ผู้ร่วมการการต้องขึ้นต้นประโยคว่า ฉันชอบคุณเพราะ… แต่มิวตุลย์ได้เปลี่ยนคำเรียกจาก “คุณ” เป็นคำว่า “ที่รัก” ซึ่งนี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่ทั้งคู่ได้ใช้สรรพนามสุดหวานนี้เรียกกันออกสื่อผ่านรายการออนไลน์
ตุลย์: “เขาชอบที่รักเพราะที่รักมีความสนใจร่วมกับเขาเยอะ อย่างเช่น ดูพิพิธภัณฑ์แล้วอ่านป้ายไปด้วยกันได้ เดินแล้วก็มีเรื่องที่จะพูดคุยกันได้ มันไม่ใช่คุณสมบัติที่หาได้ง่าย ๆ ก็เลยดีใจที่เราได้เจอ”
มิว: “เขาชอบที่รัก เพราะว่าที่รักน่ารักไงครับ”
ตุลย์: “เขาชอบที่รักเพราะที่รักเป็นที่ปรึกษาที่ดี ตั้งใจฟังปัญหา เป็นผู้ฟังที่ดี เอาประสบการณ์ของตัวเองมาแนะนำว่าควรหาทางออกแบบไหน ซึ่งมีหลายอย่างที่เอาคำปรึกษาไปใช้แล้วดีขึ้นจริง ๆ”
มิว: “เขาชอบที่รักเพราะเวลาเราอยู่ด้วยกันแล้วพัฒนาไปด้วยกัน เรื่องงาน เรื่องส่วนตัว การใช้ชีวิต เหมือนได้เรียนรู้ แล้วเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ”
ตุลย์: “เขาชอบที่รักทั้งตัว เป็นคนที่ดูดีมาก ๆ ดูแลตัวเอง ทำให้เป็นแรงผลักดันทางอ้อมว่าเราต้องดูแลตัวเองด้วย”
มิว: “เขาชอบที่รักเพราะอยู่ด้วยแล้วมีความสุขครับ อยากอยู่ด้วยนาน ๆ”
เปิดเผยสถานะแบบไม่ต้องป่าวประกาศเมื่อถูกถามถึงความกดดันที่สังคมมีสำหรับคู่ของมิวและตุลย์ รวมถึงวิธีการรับมือกับความคิดเห็นเชิงลบต่าง ๆ สองหนุ่มได้ตอบคำถามด้วยทัศนคติที่น่าชื่นชม เกี่ยวกับประเด็นความหลากหลายในสังคมปัจจุบัน โดยตุลย์ได้เล่าถึงโมเมนต์ที่ต้องเจอกับคอมเมนต์แย่ ๆ และเต็มไปด้วยความเกลียดชัง แต่ก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ โดยมี มิว ศุภศิษฏ์ คอยจับมือให้กำลังใจอยู่ข้าง ๆ ตอนที่ตอบคำถามนี้ด้วย
ตุลย์: “เราผ่านการรีเฟล็กซ์กันมาเยอะมาก ฝั่งเราก่อนละกัน ไม่คิดว่าการเปิดเผยความสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ต้องทำ บวกกับความเป็นบุคคลสาธารณะทั้งคู่ มีความคิดเห็นของคนเยอะมาก ที่พร้อมจะมองเราอย่างนู้นอย่างนี้ แต่เราก็โตขนาดนี้แล้ว เลยคิดว่าไม่จำเป็นต้องพิสูจน์ตัวเองให้ใครรัก ก็เลยคิดว่าถ้าเราไม่ทำตอนนี้จะทำตอนไหน เราเองก็โดนเกลียดเยอะ ทำให้ตระหนักว่าโลกนี้มันโหดร้ายจังวะ มันมีคนที่กูไม่รู้จัก แต่อยากให้กูตาย เราก็คิดว่ามันถึงเวลาที่จะก้าวผ่านความกลัวตรงนี้ โดยไม่กลัวว่าคนอื่นจะตัดสินเรายังไง ก็อยากให้ทุกคนเป็นตัวเอง และอยากให้คนที่ยังปิดใจอยู่ คิดว่าเราควรเอาความคาดหวังของตัวเองไปตัดสินคนอื่นไหม อยากให้รู้ว่าความหลากหลายคือสิ่งที่สวยงามที่สุด”
มิว: “ต้องยอมรับว่าสังคมปัจจุบันมันเปลี่ยนไปเยอะมาก ๆ และเปลี่ยนไปในทางที่ดีด้วยนะ อยากขอบคุณทุกคนที่พร้อมจะก้าวหน้า ทำให้สังคมเราดีขึ้นในทุกแง่มุม มันอยู่ในจุดที่เรารู้สึกว่าเรื่องพวกนี้ เราข้ามผ่านการที่ต้องออกมาเปิดเผย ออกมาพูด ออกมาแสดงสถานะต่าง ๆ มันข้ามไปแล้ว ทุกคนสามารถมีความรักในแบบของตัวเอง และใช้ชีวิตของตัวเองให้มีความสุขได้ ก็เลยรู้สึกว่าเป็นโมเมนต์ที่ดีมาก ๆ เลย แล้วก็เจอคนที่ดีในโมนเมนต์นี้พอดี”
“ถ้าใครได้ติดตามเรามาก็จะเห็นว่าเราผ่านหลายช่วงมาก ๆ ต้องถามทุกคนเลยว่าทุกคนมีสติพอที่จะรับรู้อารมณ์ตัวเองมากแค่ไหน บางทีเรายังขาดสติเลยนะกับตัวเอง แล้วเราจะไปควบคุมคนอื่นได้ยังไงให้เขาคิดแบบนั้นแบบนี้กับเรา พอเรามามองตัวเองมากขึ้น อะไรแก้ปัญหาได้ อะไรควรมองข้าม ไม่ควรมองข้าม มันทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น แล้วก็มีความสุขมากขึ้นด้วย แล้วก็ทำให้เราเอาเวลาที่เคยสนใจสิ่งไม่ดี เอาไปพัฒนาตัวเองได้เพิ่มมากขึ้นอีก”
ตุลย์: “เราเชื่อว่ามีคนจำนวนหนึ่งยังติดอยู่กับปัญหาความคาดหวังของคนที่บ้าน แต่เราเชื่อว่าวันหนึ่งมันจะเปลี่ยนไปครับ ก็อย่างที่สังคมกำลังเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีมากขึ้น”
อ่านข่าวที่เีก่ยวข้อง
- ฟินสิบตลบ “มิว-ตุลย์” แจ้งข่าวดี เตรียมแต่งงาน พ่อยก แม่ยก เฮ
- ‘มิว ศุภศิษฏ์’ จ่อลงซีรีส์วายเกาหลี ‘Love is like a Cat’ ประกบไอดอลดัง
- มิว ศุภศิษฏ์ สารภาพ ไม่โสดแล้ว รับพา ‘ตุลย์ ภากร’ กินข้าวกับครอบครัว
ภาพ : Youtube GoyNattyDream Channel , ig @mewsuppasit ig @tul_pakorn