การเงินเศรษฐกิจ

วิธีแก้ สแกนหน้าแอปทางรัฐไม่ผ่าน ยืนยันตัวตนไม่ได้ ทำตามนี้

วิธีแก้ ยืนยันตัวตน สแกนหน้าแอปทางรัฐไม่ผ่าน ทำยังไง รัฐบาลเปิดช่องทางลงทะเบียน ตู้บุญเติม เซเว่น ไปรษณ๊ย์ไทย จุดวอร์คอิน

รายงานความคืบหน้าการลงทะเบียนแอปทางรัฐ ยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนและสแกนใบหน้า ก่อนเริ่มลงทะเบียนเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท พรุ่งนี้ 1 สิงหาคม 2567 สำหรับผู้มีสมาร์ทโฟน

รัฐบาลแจ้งว่า ประชาชนสามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นทางรัฐ และยืนยันตัวตนเตรียมพร้อมได้ก่อนลงทะเบียนจริง เพื่อเลี่ยงปัญหาแอปล่มเนื่องจากมีผู้ใช้งานจำนวนมาก แต่ปรากฎว่า วันนี้ (31 ก.ค.) ผู้ใช้งานบางรายก็เจอปัญหาแอปล่มเสียแล้ว

ยืนยันตัวตนแอปทางรัฐไม่ได้ แก้ยังไง

เบื้องต้นมีรายงานว่า ผู้ใช้งานบางรายที่ต้องการสมัครสมาชิก และยืนยันตัวตนไม่สำเร็จ หลังกรอกข้อมูล ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประชาชน โดยขึ้นข้อความว่า

“ขออภัย ขณะนี้ไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลยืนยันตัวตน กรุณาลองใหม่”

ข้อผิดพลาดดังกล่าว เกิดขึ้นเวลาเดียวกับปัญหาแอปทางรัฐล่ม ขึ้นข้อผิดพลาด 504 แสดงถึงปัญหาการดึงเซิร์ฟเวอร์ของระบบ เนื่องมาจากมีผู้ใช้งานจำนวนมาก อาจต้องรอสักครู่ แล้วให้ยืนยันตัวตนใหม่อีกครั้ง

สแกนหน้าแอปทางรัฐไม่ผ่าน ทำตามนี้

1. กรณีท่านสแกนหน้าไม่ผ่าน สามารถสร้างบัญชีและเข้าใช้งานแอปทางรัฐได้ก่อน

2. แล้วค่อยสแกนใบหน้าภายหลัง โดยกดที่ปุ่มสร้างบัญชี

สแกนหน้่าไม่ผ่าน ให้สร้างบัญชีเตรียมไว้ก่อน

หากทดลองแล้วยังไม่สำเร็จ สามารถยืนยันตัวตนแอปทางรัฐ ได้ทางช่องทางอื่นๆ ได้อีก ดังนี้

1. ตู้บริการอเนกประสงค์ภาครัฐ : ใช้บัตรประชาชนและสมาร์ทโฟน เสียบบัตรกับตู้แล้วทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ

2. แอปพลิเคชั่น D.DOPA : ดาวน์โหลดแอป D.DOPA มาใช้ แล้วกดปุ่ม เข้าสู่ระบบด้วย D.DOPA

3. ตู้บุญเติม : นำบัตรประชาชนไปเสียบกับตู้บุญเติม โดยเลือกเมนู ทางรัฐ แล้วทำตามขั้นตอนบนหน้าจอ

4. เซเว่น : ยืนยันตัวตนผ่านแอป 7-Eleven แล้วนำ QR ไปแจ้งกับพนักงาน

5. ไปรษณ๊ย์ไทยทุกสาขา : ติดต่อเจ้าหน้าที่ว่ามาลงทะเบียนยืนยันตัวตนทางรัฐ

แม้ว่าพรุ่งนี้จะเปิดลงทะเบียนวันแรก แต่ประชาชนที่มีสิทธิเข้าเงื่อนไขรับเงิน สามารถยืนยันตัวตนได้ถึง วันที่ 15 กันยายน 2567 ไม่ต้องรีบไปวันเดียวกันทั้งหมด

จุดให้บริการ (Walk-in) สำหรับผู้ต้องการความช่วยเหลือลงทะเบียนดิจิทัล

นอกเหนือจาก 6 วิธีข้างต้น ทางรัฐบาลได้ตั้งจุดบริการ (Walk-in) จำนวน 5,199 แห่งทั่วประเทศ เพื่อช่วยให้ประชาชนลงทะเบียนได้สะดวกราบรื่น ใกล้ที่ไหนไปที่นั่นดังนี้

  1. ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์ทั่วประเทศ
  2. ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่งทั่วประเทศ (ยกเว้นไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
  3. ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
  4. ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่งทั่วประเทศ

ตรวจสอบผลลงทะเบียน

แจ้งผลลงทะเบียนวันที่ 22 กันยายน 2567 ผ่านแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ผู้ที่ไม่ผ่านการลงทะเบียนจะได้รับแจ้งเงื่อนไขที่ไม่ผ่านหรือเอกสารที่ต้องการเพิ่มเติมและสามารถยื่นอุทธรณ์ได้ เงินดิจิทัลจะเริ่มทยอยเติมเข้ากระเป๋าเงินประชาชนภายในเดือนตุลาคม ใช้จ่ายได้จริงในเดือนธันวาคม 2567

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button