“เอเมอร์สัน เปไรร่า” ให้สัมภาษณ์ หลังทีมชาติไทย U20 เข้ารอบรองฯ ชิงแชมป์อาเซียน
เอเมอร์สัน เปไรร่า ให้สัมภาษณ์ หลังเกมนัดที่สาม ของทีมชาติไทย ในศึกชิงแชมป์อาเซียน รุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี
สำหรับ ทีมชาติไทย U20 เสมอกับ มาเลเซีย 1-1 ในเกมนัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม และจบด้วยการเป็นรองแชมป์กลุ่ม ด้วยการมี 7 คะแนน พร้อมผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศ
หลังการแข่งขัน เอเมอร์สัน เปไรร่า กล่าวว่า “ผมคิดว่าเกมนี้เป็นเกมที่ดี และวัดกันที่แท็คติก เราเสียการควบคุมเกมไปในช่วงต้นครึ่งหลัง แต่ผมก็พอใจกับผลที่ออกมา และเราก็สร้างโอกาสได้มากมายในการทำประตู ที่มีไปชนเสาและชนคานอย่างละครั้ง และตอนนี้เราต้องโฟกัสไปที่เกมต่อไป”
“เราก็ต้องพยายามฟื้นฟูร่างกายให้ได้เร็วในวันพรุ่งนี้ ออสเตรเลียเป็นทีมที่ดี และแข็งแกร่ง เราต้องวิเคราะห์การเล่นของนักเตะ และเลือกนักเตะที่ดีที่สุดลงสนามในเกมนี้ ตลอดสามเกมในรอบแบ่งกลุ่ม เรามีโอกาสทำประตูเยอะมาก ผมคิดว่าเกมกับสิงคโปร์ และ บรูไน รวมถึงมาเลเซีย ผมคิดว่าเราอาจจะต้องซ้อมการจบสกอร์มากกว่านี้ เราเล่นได้ดี ผมคิดว่านักเตะของเรา มีพัฒนาการที่ดีขึ้นเรื่อยๆในระหว่างทัวร์นาเมนต์ ตอนนี้ เราต้องเจอกับ ออสเตรเลีย เราต้องทำเต็มที่”
“เกมกับ ออสเตรเลีย แน่นอนว่าจะเป็นเกมที่ยาก และเขามีเวลาพักมากกว่าเรา แต่เรามีแค่วันเดียว เราต้องวิเคราะห์นักเตะของเรา ทั้งเรื่องความฟิตและเลือกนักเตะที่ดีที่สุดลงสนาม”
ด้าน ธนาวุฒิ โพธิ์ชัย กองหน้าทีมชาติไทย U20 กล่าวว่า “เกมนี้เราเล่นกันได้ดี แต่ก็มาเสียจุดโทษ ตอนนี้เราก็เตรียมพร้อมสำหรับเกมต่อไป ทีมงานสตาฟฟ์ ได้สเกาท์การเล่นของออสเตรเลียไว้แล้ว”
“สำหรับตัวผมอนาคต ก็มีความฝันครับ คืออยากไปเล่นในเจลีก ถ้าต้องเลือกทีมจริงๆก็คงเป็นโชนัน เบลล์มาเร่ เพราะหนองบัว ของผมก็เป็นพาร์ทเนอร์กับโชนัน”
“ส่วนการเจอกับ ออสเตรเลีย แม้พวกเขาจะมีร่างกายที่ใหญ่กว่าแต่ก็ไม่กลัวครับ ก็จะพยายามเล่นตามวิธีการที่โค้ชวางแผน”
โปรแกรมนัดต่อไป ทีมชาติไทย U20 จะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี รอบรองชนะเลิศ พบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย ที่ จีบีที สเตเดียม ในวันที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 15.00 น. ถ่ายทอดสดทาง AIS PLAY
ภาพและข้อมูลจาก : ฟุตบอลทีมชาติไทย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- (คลิปไฮไลท์) ทีมชาติไทย U20 โดน มาเลเซีย ไล่เจ๊า 1-1 ลิ่วรอบรองฯ ชนออสเตรเลีย
- ตารางคะแนน กลุ่ม ซี ฟุตบอลชิงแชมป์อาเซียนรุ่นอายุไม่เกิน 19 ปี 2024