ประชาชน 3 กลุ่มต้องห้าม ไม่มีสิทธิลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท รุนแรงทุกข้อ

1. คนที่อยู่ระหว่างต้องโทษจาคุกในเรือนจำ

2. คนที่ถูกระงับสิทธิหรือถูกเรียกเงินคืนในมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ

3. คนฝ่าฝืนเงื่อนไขของมาตรการ/โครงการอื่นๆ ของรัฐ

ข้อมูลจากปี 2565 สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ดำเนินคดีอาญากับผู้ทุจริตโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง และโครงการเราชนะ ระหว่างวันที่ 1 ก.ย. 2564-1 เม.ย. 2565 มีการดำเนินคดีรวมทั้งสิ้น 639 คดี แบ่งเป็ โครงการเราเที่ยวด้วยกัน 529 คดี โครงการคนละครึ่ง 106 คดี โครงการเราชนะ 4 คดี

ส่วนใหญ่เป็นข้อหาฐานความผิดเกี่ยวกับฉ้อโกง รวมกันฉ้อโกง ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ฉ้อโกงประชาชน และฉ้อโกงโดยนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ หากศาลตัดสินว่าผิดจริง คนเหล่านี้จะไม่ได้รับสิทธิโครงการใดจากรัฐบาลอีก

ไทม์ไลน์ลงทะเบียนของผู้มีสิทธิ

1. กลุ่มผู้ใช้สมาร์ตโฟน เริ่มลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม- 15 กันยายน 2567 ผ่านแอปพลิเคชันทางรัฐ

2. กลุ่มไม่มีมือถือ ไม่มีสมาร์ตโฟน ลงทะเบียนระหว่าง 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 ใช้บัตรประชาชน ตามสถานที่ต่างๆ ได้แก่ ธนาคารของรัฐ ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่ง สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานคร และ อบต. กับ อบจ. ประจำจังหวัด

3. กลุ่มร้านค้า ลงทะเบียนตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2567 โดยร้านค้าที่เข้าเกณฑ์คือ ร้านสะดวกซื้อ เช่น เซเว่น หาบเหร่แผงลอย ร้านธงฟ้า

หลังจาทกี่รัฐบาลตรวจข้อมูลประชาชนว่าผ่านคุณสมบัติ จะแจ้งผลตั้งแต่วันที่ 22 กันยายน 2567 เป็นต้นไป และจะเริ่มโอนเงินเข้าดิจิทัลวอลเล็ตวันที่ 1 ตุลาคม 2567

ใช้เงินดิจิทัลซื้อของยังไง

วิธีการใช้จ่ายระหว่างประชาชนกับร้านค้า คนมีสมาร์ทโฟนจะใช้โอนผ่านแอปพลิเคชั่นทางรัฐ ส่วนประชาชนไม่มีมือถือ ใช้บัตรประชาชนแทน โดยมีเงื่อนไขดังนี้

1. การชำระเงินภายใต้โครงการฯ เป็นแบบพบหน้า (Face to Face) โดยจะต้องตรวจสอบจาก ที่อยู่ของร้านค้าเป็นไปตามที่ลงทะเบียนไว้กับโครงการฯ และ ที่อยู่ของประชาชนที่ใช้สิทธิตามทะเบียนบ้านในขณะที่ลงทะเบียนโครงการฯ และ ขณะที่ใช้จ่ายกับร้านค้า ต้องอยู่ในเขตอำเภอเดียวกัน การชำระเงินจึงจะสมบูรณ์

2. ต้องใช้จ่ายกับร้านค้าขนาดเล็กที่รวมถึงร้านสะดวกซื้อขนาดเล็ก ส่วนห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีก-ค้าส่งสินค้าขนาดใหญ่ระดับประเทศและระดับท้องถิ่น ใช้ซื้อของไม่ได้

3. ร้านค้าไม่สามารถถอนเงินสดได้ทันที หลังประชาชนใช้จ่าย แต่ร้านค้าจะสามารถถอนเงินสดได้เมื่อมีการใช้จ่ายตั้งแต่รอบที่ 2 เป็นต้นไป

โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เป็นโครงการที่มุ่งเน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการส่งเสริมให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ โดยครอบคลุม 878 อำเภอ

ช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ที่จะส่งผลต่อการยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ประชาชนที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ ซึ่งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนกลุ่มดังกล่าวและชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจ สามารถพึ่งพาตนเองได้ ตลอดจนสร้างและเพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพของประชาชน รวมถึงภาคธุรกิ

จ เสริมสร้างความมั่นคงและเสถียรภาพของระบบสถาบันการเงิน ตลอดจนเป็นการวางรากฐานโครงสร้างรัฐบาลดิจิทัลซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนทำธุรกรรมกับภาครัฐผ่านช่องทางดิจิทัลในอนาคต

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

• รวมร้านค้ารับเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เช็กก่อนลงทะเบียน ช้อปปลายปี
• รู้จัก Negative List เงินดิจิทัลซื้อไม่ได้ 18 สินค้า มีอะไรบ้าง
• วิธีติดตั้งแอปทางรัฐ ลงทะเบียนเงินดิจิทัล 10,000 บาท สอนตั้งแต่ต้นจนจบ

อ้างอิงจาก : digitalwallet