ข่าวต่างประเทศ

หมอไต้หวันเตือน ใช้น้ำมันมะกอกสกัดเย็นปรุงอาหารผิดวิธี เสี่ยงเป็นมะเร็งปอด

หมอไต้หวันเตือน ใช้น้ำมันมะกอกสกัดเย็นประกอบอาหารผิดวิธี อาจเป็นโรคมะเร็งปอดและโรคหัวใจโดยไม่รู้ตัว พร้อมแนะนำวิธีการใช้น้ำมันทำอาหารให้ถูกประเภท

เว็บไซต์ต่างประเทศ hk01 รายงานว่า พบผู้ป่วยมะเร็งปอดจากการใช้น้ำมันมะกอกสกัดเย็นประกอบอาหารผิดวิธี เนื่องจากน้ำมันชนิดนี้มีจุดเกิดควันต่ำ เหมาะสำหรับทำอาหารเย็นหรือปรุงรสเท่านั้น หากนำไปผัดหรือทอดในอุณหภูมิสูง อาจก่อให้เกิดสารก่อมะเร็ง เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปอดและโรคหัวใจ

เจี๋ยเจี้ยน (Xiao Jiejian) แพทย์เวชปฏิบัติทั่วไปและผู้เชี่ยวชาญด้านการลดน้ำหนักชาวไต้หวัน แชร์เรื่องราวของ “ป้าจู” (Zhu) ประกอบอาชีพแม่บ้านและชื่นชอบการทำอาหาร เธอตรวจพบว่าเป็นโรคมะเร็งปอดระยะแรกในปีนี้ โชคดีที่ตรวจพบโรคเร็วทำให้ไม่ต้องเข้ารับเคมีบำบัด ทั้งที่ป้าจูเป็นคนรักสุขภาพและไม่สูบบุหรี่ เหตุใดโรคร้ายจึงเกิดขึ้นกับเธอ หลังจากตรวจสอบพบว่าสาเหตุมาจากการใช้น้ำมันมะกอกสกัดเย็นในการประกอบอาหาร

น้ำมันมะกอกสกัดเย็น (Virgin Olive Oil) มีจุดเกิดควันเพียง 160 – 190 องศาเซลเซียส เหมาะสำหรับทำน้ำสลัดหรือปรุงอาหารที่ใช้ความร้อนต่ำเท่านั้น หากต้องการผัดหรือทอดควรใช้น้ำมันมะกอกชนิดกลั่น (Refined Olive Oil) ที่มีจุดเกิดควันสูงกว่า ประมาณ 230 องศาเซลเซียส

ใช้น้ำมันมะกอกสกัดเย็น ผิดวิธีอาจทำให้เสี่ยงเป็นโรคร้ายได้ เช่น โรคหัวใจ และโรคมะเร็งปอด

ใช้น้ำมันมะกอกผิดวิธีเสี่ยงเป็นโรคร้าย

แม้ว่าน้ำมันมะกอกชนิดกลั่นจะทนความร้อนได้ดีกว่า แต่ไม่ควรใช้ความร้อนสูงในการปรุงอาหารนานเกินไป เพราะอาจก่อให้เกิดสารอะคริลาไมด์ (acrylamide) หรือสารไฮโดรคาร์บอน (polycyclic aromatic hydrocarbons) ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เพิ่มความเสี่ยงการเป็นโรคมะเร็งและโรคหัวใจ

คุณหมอเจี๋ยเจี้ยนยังเผยอีกว่า อัตราผู้ป่วยมะเร็งปอดที่ไม่สูบบุหรี่ในไต้หวันสูงถึง 53% ซึ่งสูงกว่าในสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย สาเหตุหนึ่งอาจมาจากการใช้น้ำมันประกอบอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำมันที่มีจุดเกิดควันต่ำ เช่น น้ำมันมะกอกสกัดเย็น และน้ำมันแฟลกซ์ซีด (Flaxseed Oil)

น้ำมันแฟลกซ์ซีด เป็นน้ำมันที่มีโอเมก้า 3 สูง ช่วยลดการอักเสบในร่างกายได้ จากงานวิจัยพบว่าการดื่มน้ำมันแฟลกซ์ซีดวันละ 1 ช้อนโต๊ะ สามารถลดการอักเสบในร่างกายได้ภายในไม่กี่สัปดาห์ แต่หากนำไปประกอบอาหารที่ต้องใช้ความร้อนสูง อาจเกิดสารอนุมูลอิสระและไขมันทรานส์ ทั้งนี้น้ำมันแฟลกซ์ซีดยังมีอายุการเก็บรักษาสั้นอีกด้วย

การบริโภคน้ำมันแฟลกซ์ซีดมากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดอาการอักเสบเรื้อรัง เช่น แผลในช่องปาก ผื่นที่ผิวหนัง และโรคภูมิแพ้

ใช้น้ำมันแฟลกซ์ซีดมากเกินไปอาจทำให้ร่างกายเกิดอาการอักเสบเรื้อรัง เช่น แผลในช่องปาก ผื่นที่ผิวหนัง โรคภูมิแพ้

น้ำมันอะโวคาโดและน้ำมันชาช่วยลดความดันเลือด

คุณหมอเจี๋ยเจี้ยนแนะนำว่า หากต้องการปรุงอาหารที่มีความร้อนสูงให้เลือกใช้น้ำมันอะโวคาโด (Avocado oil) เพราะมีจุดเกิดควันสูงถึง 271 องศาเซลเซียส และยังอุดมไปด้วยโอเมก้า 9 ที่มีส่วนช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

นอกจากนี้ น้ำมันชา (Tea Oil) ยังเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะจุดเกิดควันสูงถึง 250 องศาเซลเซียส และอุดมไปด้วยโอเมก้า 9 วิตามินอี และโพลีฟีนอลที่ช่วยลดไขมันในเลือด ลดความดันโลหิต ต้านอนุมูลอิสระ ช่วยย่อยอาหาร และเสริมสร้างภูมิคุ้มกันได้ดี

น้ำมันอะโวคาโดและน้ำมันชาเหมาะสำหรับการประกอบอาหารที่มีความร้อนสูง รวมทั้งช่วยลดความดันเลือด

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

sukanlaya s.

นักเขียนบทความ SEO ประจำเว็บไซต์ The Thaiger จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชี่ยวชาญงานเขียนประเภท ข่าวกระแสสังคม และบทความไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็น รีวิวที่เที่ยว เทรนด์แฟชั่นและความงาม พร้อมแนะนำกระแสมาแรง ทันเหตุการณ์ ช่องทางติดต่อ ying@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button