ส่งกลับประเทศ สามีภรรยาชาวจีน ขึ้นป้ายซื้อขายพาสปอร์ตกลางแยกห้วยขวาง
ส่งกลับประเทศ สามีภรรยาชาวจีน ขึ้นป้ายซื้อขายพาสปอร์ตกลางแยกห้วยขวาง หลังพบว่ามีหมายจับประเทศจีนติดตัว เผยไม่มีลูกค้ามาใช้บริการ
พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. ,พล.ต.ท.ฐิติ แสงสว่าง ผบช.น. พร้อมด้วยชุดสืบสวน บก.สส.บช.น. เปิดเผยความคืบหน้าหลังทำการสอบสวนกรณีป้ายโฆษณาภาษาจีน ที่บริเวณแยกห้วยขวาง กรุงเทพฯ ที่มีการโฆษณาซื้อขายพาสปอร์ตกัน ว่าพบผู้เกี่ยวข้องคือ นายซิน หลิง อายุ 33 ปี สัญชาติจีน ซึ่งเกี่ยวข้องกับเป็นสามีของ นางซู น่า อายุ 35 ปี สัญชาติจีน
จากการสืบสวนทราบว่า นายซิน หลิง เป็นบุคคลตามหมายจับของประเทศจีน ในข้อหาซื้อขายบัตรประจำตัว และเป็นบุคคลที่ทางการประเทศจีน ต้องการตัวเพื่อดำเนินคดี ชุดสืบสวน สตม. จึงได้ทำการลงระบบเฝ้าระวังของ สตม. และขออนุมัติเพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวของ นายซิน หลิง ไว้แล้ว
ต่อมา เวลาประมาณ 07.00 น. ตรวจพบว่า นายซิน หลิง กำลังจะเดินทางออกนอกราชอาณาจักร ทางช่องทางท่าอากาศยานดอนเมือง ชุดสืบสวนจึงได้เข้าตรวจสอบ พบ นายซิน หลิง จึงได้แจ้งให้ นายซิน หลิง ทราบว่า ถูกเพิกถอนการอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวแล้ว จากนั้นจึงได้นำตัว นายซิน หลิง ส่ง กก.3 บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
จากการขยายผลพบว่า นายซิน หลิง เกี่ยวข้องเป็นสามีของ นางซู น่า โดยจากการตรวจสอบข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ในโทรศัพท์ของนายซิน หลิง พบว่ามีความเกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกับหมายเลขโทรศัพท์ ที่ประกาศบนป้ายโฆษณาภาษาจีนที่บริเวณแยกห้วยขวาง กรุงเทพฯ อีกทั้งจากการซักถามปากคำ นางซู น่า รับว่าได้นำโทรศัพท์มือถือของนายซิน หลิง ไปใช้ เพื่อเตรียมตัวติดต่อกับลูกค้าที่จะมาใช้บริการทำหนังสือเดินทางตามที่ประกาศไว้บนป้ายโฆษณา แต่ยังไม่มีลูกค้าติดต่อมาแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามในวันนี้ พนักงานสอบสวน บก.สส.สตม. ได้นำตัว นางซู น่า ฟ้องดำเนินคดีต่อ ศาลแขวงพระนครเหนือ ในข้อหา “เป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ซึ่งผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ศาลพิพากษา ลงโทษจำคุก 4 เดือน ปรับ 5,000 บาท โทษจำคุก รอลงอาญา 1 ปี จากนั้นจึงได้ทำการลงระบบบุคคลต้องห้ามของ สตม. (Blacklist) ห้ามเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ส่วน นายซิน หลิง ขณะนี้อยู่ระหว่างผลักดันออกนอกราชอาณาจักรต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง