ภูเก็ต – ชาวบ้านซอยลูกปอ ต.กะรน จ.ภูเก็ต ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯภูเก็ต สั่งรื้อสิ่งปลูกสร้างบนถนนคอนกรีตที่ผู้อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินปิดกั้นออก เปิดทางให้ชาวบ้านเข้าออกสะดวก เดือนร้อนหนักเข้าออกไม่ได้
เมื่อเวลา 11.30 น.วันนี้ (3 ธ.ค.) ที่สมาคมผู้สื่อข่าวภูเก็ต ชาวบ้านจากชุมชนบางลา หมู่ที่ 3 ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นำโดย น.ส.อมรา เทพแก้ว เดินทางมาร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว เพื่อให้สื่อนำเสนอข่าวความเดือดร้อนที่กำลังประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้
พร้อมทั้งมาติดตามความคืบหน้ากับทางศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต มีคำสั่งทางการปกครองไปยังนายอำเภอเมืองภูเก็ต และเทศบาลตำบลกะรน ให้ทำการรื้อถอนหรือทำลายสิ่งปลูกสร้างบนทางสาธารณะประโยชน์ ที่ซอยปฏัก (ซอยลูกปอ) ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต
น.ส.อมรา เทพแก้ว ชาวบ้านซึ่งมีอาชีพเปิดร้านอาหาร ในซอยปฏัก (ซอยลูกปอ) ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า ชาวบ้านในชุมชนบางลา ซอยปฏัก (ซอยลูกปอ) กว่า 14 ราย ได้รับความเดือดร้อนจากกรณีที่มีผู้อ้างว่ามีกรรมสิทธิ์ในที่ดินบนถนนทางเข้าซอยลูกปอ ที่ทางเทศบาลตำบลกะรนได้เข้าไปปรับปรุงและทำถนนคอนกรีตเพื่อให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านหลังซอยสามารถเข้าออกได้สะดวก โดยการปิดทางเข้า-ออก ทั้งที่ซอยดังกล่าวชาวบ้านใช้เป็นทางเข้า-ออก ชุมชนมากว่า 100 ปี
ซึ่งเริ่มแรกนั้นเป็นถนนขรุขระและเป็นถนนดิน ทางเทศบาลตำบลกะรนได้ใช้งบประมาณทำเป็นถนนคอนกรีต ซึ่งชาวบ้านถือว่าถนนดังกล่าวเป็นถนนสาธารณะ แต่เมื่อปีที่แล้วปรากฏว่าได้มีผู้ที่อ้างกรรมสิทธิ์ที่ดินบนถนนดังกล่าว ได้ทำสิ่งกีดขวางเพื่อไม่ให้ตนและบุคคลทั่วไปใช้ถนนดังกล่าว พร้อมทั้งนำสิ่งของที่ไม่ได้ใช้แล้วเข้ามาประกอบการในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อสร้างเป็นสิ่งกีดขวาง เพื่อไม่ให้ตนและชาวบ้านได้ใช้ถนนนั้นอีก
อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมด้วยชาวบ้านได้ร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เทศบาลตำบลกะรน เนื่องจากผู้อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้สร้างสิ่งกีดขวางทางสาธารณะประโยชน์
แต่ปรากฎว่าไม่มีหน่วยงานราชการใดสามารถแก้ปัญหาดังกล่าวได้ จนล่าสุดเมื่อวันที่ 6 พ.ย.2560 ได้มีหนังสือจากสำนักงานผู้ตรวจราชการแผ่นดิน ด่วนที่สุด ที่ ผผ 10/1630 เพื่อแจ้งคำสั่งให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต นายอำเภอและเทศบาลตำบลกะรน เข้าดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารที่ผู้อ้างกรรมสิทธิ์ได้ก่อสร้างบนถนนสาธารณะประโยชน์
แต่จนถึงปัจจุบันหน่วยงานราชการที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน มีหนังสือแจ้งดังกล่าว ไม่สามารถที่จะดำเนินการรื้อถอนหรือห้ามปรามผู้อ้างกรรมสิทธิ์ได้ จนทำให้ตนและชาวบ้านกว่า 14 ครัวเรือนได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากไม่สามารถใช้เส้นทางดังกล่าวเพื่อเข้าออกได้อย่างปกติสุข
น.ส.อมรา กล่าวเพิ่มว่า วันนี้ตนและชาวบ้านที่อยู่ในซอยลูกปอ จึงได้มายื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดภูเก็ต เพื่อติดตามความคืบหน้าและยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้ปฏิบัติตามคำสั่งด่วนที่สุด ที่ ผผ 10/1630 เพื่อรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่ผู้อ้างสิทธิ์บนถนนสาธารณะประโยชน์ดังกล่าว
