อยู่ยังไง ผนังบ้านอังกฤษ ไหลกองพื้น เผยเบื้องหลังสถาปัตย์สุดล้ำ
ศิลปินอังกฤษสร้างบ้านลวงตา เปลี่ยนตึกร้างให้กลายเป็นบ้านที่กำลังไหลกองพื้นเหมือนแผ่นยาง แฝงความหมายของสัจธรรม ไม่มีสิ่งใดในโลกยั่งยืน
“อเล็กซ์ ชินเนค” (Alex Chinneck) นักออกแบบชาวอังกฤษ สร้างสรรค์ผลงานศิลปะสุดแหวกแนวที่เมืองมาร์เกต (Margate) ริมทะเลอังกฤษ โดยเปลี่ยนโฉมบ้านเก่า 4 ชั้นที่ถูกทิ้งร้างนานกว่า 11 ปี สั่งรื้อถอนด้านหน้าของตัวบ้านเดิมที่ทรุดโทรม แล้วสร้างใหม่ให้ดูเหมือนผนังกำลังไหลลงมาที่พื้นเหมือนแผ่นยาง
ชินเนค ตั้งชื่อผลงานชิ้นนี้ว่า “From the Knees of my Nose to the Belly of my Toes” แปลได้ว่า “จากจมูกถึงนิ้วเท้า” ในที่นี้ใช้สื่อความหมายโดยรวมของงานศิลปะ เช่น “บ้านลวงตา” หรือ “บ้านที่ไถลลงมา” เขาต้องการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นนี้ให้มีความสนุกสนาน มองดูแล้วเหมือนภาพลวงตา และทุกคนสามารถเข้าถึงได้ง่าย
บ้านหลังนี้ตั้งอยู่บนถนนกอดวิน (Godwin) ในย่านคลิฟตันวิลล์ (Cliftonville) เดิมเคยเป็นย่านที่ร่ำรวยมาก่อน แต่ประสบปัญหาอาชญากรรมสูง ทำให้ปัจจุบันสภาพบ้านในเมืองทรุดโทรมและเงียบเหงา เขาจึงเกิดไอเดียขึ้นว่าอยากทำผลงานที่ดูแปลกใหม่ให้เป็นแลนด์มาร์คของเมืองนี้ เพื่อดึงดูดผู้คนเข้ามาเยี่ยมชม และหวังว่าจะช่วยฟื้นฟูพื้นที่นี้ให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
นอกจากนี้ ชินเนคต้องการสร้างความประหลาดใจให้กับผู้พบเห็น โดยไม่ติดป้ายชื่อผลงานหรือคำอธิบายใด ๆ เพื่อให้ผู้ชมมองและตีความหมายผลงานชิ้นนี้ด้วยตนเอง
ผลงานชิ้นนี้ใช้เวลาสร้างถึง 1 ปี ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทชื่อดังในอุตสาหกรรมอังกฤษ ร่วมบริจาคทั้งวัสดุและอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อให้โครงการนี้สำเร็จลุล่วง โดยบ้านลวงตาหลังนี้ตั้งโชว์อยู่ 12 เดือน ก่อนที่จะถูกปรับปรุงให้เป็นที่อยู่อาศัยต่อไป
หลังจากผลงานชิ้นนี้กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ผู้คนต่างพากันตั้งข้อสังเกตว่า แท้จริงแล้วบ้านหลังนี้สามารถอาศัยอยู่ได้จริงหรือเป็นเพียงผลงานสำหรับตั้งโชว์เท่านั้น นอกจากนี้ยังคอมเมนต์เชิงขบขันว่าอยากมาลองสัมผัสประสบการณ์บ้านกลับหัวว่าจะเป็นอย่างไร
ชินเนค เป็นศิลปินที่มีผลงานโดดเด่นมากมายและมักนำเสนอภาพลวงตาจากสิ่งก่อสร้างที่ผุพัง ผลงานก่อนหน้านี้เขาเคยเปลี่ยนโรงงานให้หน้าต่างมีรอยแตกหักเหมือนกันทุกบาน และกำแพงอิฐที่ดูเหมือนกำลังละลาย
อย่างไรก็ตาม ผลงานของศิลปินหนุ่มสามารถสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับผู้ชมได้อยู่เสมอ ทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงความจริงและความฉาบฉวยของสิ่งต่าง ๆ ในสังคม ถึงแม้ในช่วงเวลาหนึ่งสิ่งปลูกสร้างหรือสิ่งของอาจมีมูลค่าสูง แต่เมื่อเวลาผ่านไปกลับถูกปล่อยให้ทิ้งร้าง ไม่มีผู้ใดสนใจ และไม่มีมูลค่าอีกต่อไปดั่งความหมายที่ของชินเนคต้องการจะสื่อ
ที่มา : dezeen
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง