ประวัติ “เจ.ดี. แวนซ์” แคนดิเดตรอง ปธน.ของทรัมป์
ทำความรู้จัก ‘เจมส์ เดวิด แวนซ์’ วุฒิสภาจากรัฐโอไฮโอ และนักเขียนชื่อดัง ผันจากแอนตี้ โดนัลด์ ทรัมป์ ตัวพ่อ สู่ตัวเต็งพรรค รีพับลิกัน
กลายเป็นกระแสฮือฮาอีกครั้ง เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2567 กรณี อดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ Donald trump) ประกาศว่าเขาได้เลือก เจมส์ เดวิด แวนซ์ (James David Vance) สมาชิกวุฒิสภาจากรัฐโอไฮโอ เป็นผู้ชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ในการสู้ศึกเลือกตั้งของสหรัฐอเมริกาที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายนนี้ ทีมข่าว เดอะ ไทยเกอร์ จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักกับ ‘เจมส์ เดวิด แวนซ์’ ว่าเป็นใครมาจากไหน มีประวัติแวดวงการเมืองน่าสนใจอะไรบ้าง ทำไมทรัมป์จึงเลือกเสนอชื่อเขาท่ามกลางตัวเลือกนัการเมืองมากมาย
ความฝันนักเขียน สู่เส้นทางการเมืองตัวพ่อ
เจมส์ เดวิด แวนซ์ (James David Vance) หรือ เจ. ดี. แวนซ์ (J.D. Vance) เกิดเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม ปี 1984 เขาเกิดมาในครอบครัวที่พ่อแม่หย่าร้างกันตั้งแต่เขายังเด็ก อีกทั้งยังต้องเผชิญกับความยากจน และสภาพแวดล้อมที่เต็มไปด้วยผู้ใช้ยาเสพติด ทำให้เขาและแม่ต้องต่อสู้กับความยากลำบากในชีวิตช่วงนั้น เจมส์ เดวิด แวนซ์ จบการศึกษาจาก Yale Law School ต่อมาเขาได้เข้าร่วมกองนาวิกโยธินของสหรัฐฯ และได้ไปทำหน้าที่ผู้สื่อข่าวรบที่ประเทศอิรัก
เจ. ดี. แวนซ์ เริ่มเป็นที่รูจักอย่างมากในปี 2016 เมื่อเขาตีพิมพ์หนังสือบันทึกความทรงจำที่ชื่อว่า Hillbilly Elegy ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชนชั้นแรงงานผิวขาวในย่าน Appalachia ที่ต้องเผชิญชะตากรรมกับการถูกข่มเหง ความยากจน และการใช้ยาเสพติด หนังสือของเขาได้กลายเป็นหนังสือขายดีและได้รับเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก กระทั่งในปี 2020 ได้ถูกนำไปมำเป็นภาพยนตร์ โดยมีผู้กำกับชื่อดังอย่างรอน ฮาวเวิร์ด (Ron Howard) มาร่วมทำผลงานชิ้นนี้
หลังจากที่โด่งดังในฐานะนักเขียนแล้ว แวนซ์ได้หันมาก่อตั้งองค์กรที่ชื่อว่า “Our Ohio Renewal” ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงผลกำไร มุ่งให้การช่วยเหลือด้านการศึกษาและผู้ติดฝิ่น ต่อมาเมื่อองค์กรดังกล่าวปิดตัวลงเจมส์ เดวิด แวนซ์ได้ร่วมสร้างบริษัทเกี่ยวกับการลงทุนในเมืองซินซินแนติ (Cincinnati) รัฐโอไฮโอ โดยมีเป้าหมายเพื่อสนับสนุนกลุ่มนักธุรกิจสตาร์ตอัปในเมืองนั้น
จุดเริ่มต้นเส้นทางการเมืองของแวนซ์ เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2021 ซึ่งแวนซ์ได้พยามแสดงทรรศนะในประเด็นต่าง ๆ ทางการเมือง เขาได้รับการสนับสนุนจากเสียงของทรัมป์ในช่วงท้ายของการหาเสียง และในที่สุดเจมส์ เดวิด แวนซ์ก็ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้งในปี 2022 ได้รับตำแหน่งเป็นวุฒิสภา ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากมาย
ความสัมพันธ์ของโดนัลด์ ทรัมป์กับเจมส์ เดวิด แวนซ์
เจ. ดี. แวนซ์ อายุ 39 ปี และกำลังจะครบ 40 ปีในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นผู้ท้าชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดีที่อายุน้อยที่่สุดบนหน้าประวัติศาสตร์การเมืองสหรัฐฯ เจมส์ เดวิด แวนซ์ มีพื้นเพมาจากรัฐโอไฮโอ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งฐานเสียงสำคัญของพรรคริพับลิกัน นักวิจารณ์การเมืองหลายท่านจึงลงความเห็นว่า การที่ทรัมป์เลือกเขามาเป็นคู่หูสำหรับลงสมัครเลือกตั้งในครั้งนี้ อาจเป็นแรงส่งเสริมให้เขาได้รับฐานเสียงที่เพิ่มมากขึ้นด้วย
ความน่าสนใจอีกอย่างของการตัดสินใจเลือกเสนอชื่อ เจ. ดี. แวนซ์ ขึ้นมาเพื่อชิงตำแหน่งนี้ คือข้อพิพาทในอดีตระหว่างทรัมป์และเขา เนื่องจากในอดีตเขาเคยปรามาสทรัมป์อย่างรุนแรงในปี 2016 ท่ามกลางศึกการเลือกตั้งระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ และฮิลลารี คิลตัน โดยแวนซ์ได้เรียกทรัมว่า “คนงี่เง่า” และ “ฮิตเลอร์ของอเมริกา”
การผันตัวจากคนที่เคยเกลียดชังมาเป็นผู้สนับสนุนโดนัล์ ทรัมป์ในปัจจุบันของเขา จึงทำให้หลายคนเกิดความสนใจว่าเป็นเพราะเหตุใด ซึ่งหลายคนสันนิษฐานว่าอาจมาจากจุดยืนทางการเมืองของเขา จึงทำให้แวนซ์มองข้ามบุคลิกและการแสดงของทรัมป์ และหันไปดจ่ออยู่กับการนำเสนอนโยบายต่าง ๆ ของทรัมป์ ทำให้ท่าทีของเจ. ดี. แวนซ์ ตั้งแต่ปี 2021 เป็นต้นมา เริ่มให้การสนับสนุนทัศนะทางการเมืองหลายอย่างของโดนัลด์ ทรัมป์อย่างเห็นได้ชัด
หลายคนกล่าวว่าเจมส์ เดวิด แวนซ์ เป็นนักการเมืองจำพวกขวาจัด เขาจึงมีแนวคิดที่ชื่นชอบความอนุรักษ์นิยม นโยบายหลายอย่างของทรัมป์ที่เน้นแนวคิดชาตินิยมจึงอาจเป็ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาหันมาส่งเสียงสนับสนุนโดนัลด์ ทรัมป์อย่างต่อเนื่อง
แวนซ์เห็นด้วยกับทรัมป์ในประเด็นเกี่ยวกับการค้าเสรี โดยให้ความเห็นว่าสิ่งเหล่านี้จะทำให้ยอดการผลิตในประเทศลดลง ซึ่งส่งผลให้รัฐเสียประโยชน์ รวมถึงประเด็นการข้องเกี่ยวกับสงครามในต่างประเทศ ซึ่งแวนซ์ได้คัดค้านการช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ที่มีต่อยูเครน ท่ามกลางการทำสงครามกับประเทศยักษ์ใหญ่อย่างรัสเซีย
ด้วยความคิดเชิืงอนุรักษ์นิยมของเขานี่เอง ที่ทำให้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างมากทั้งในกลุ่มสมาชิกวุฒิสภา และคนทั่วไป เพราะการแสดงออกของเขาอาจทำให้ทรัมป์ได้เสียงเพิ่มขึ้นจากกลุ่มอนุรักษ์นิยม ขณะที่นักวิจารณ์การเมืองหลายคนก็ประเมินว่าท่าทีเช่นนี้อาจทำให้ทรัมป์เสียฐานเสียงจากคนรุ่นใหม่อีกฟากฝั่งไปด้วย
อย่างไรก็ตาม โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ออกมาเผยว่าเขาทราบดี ถึงเรื่องราวในอดีตของเจ. ดี. แวนซ์ แต่ตอนนี้ทรัมป์และแวนซ์ได้ปรับความเข้าใจกันแล้ว อีกทั้งทรัมป์ยังกล่าวอีกว่า “แวนซ์เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเราสำหรับชัยชนะ” ในการเลือกตั้งครั้งนี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘ไบเดน’ เสียใจหลังพูด “ถึงเวลาเล็งเป้าทรัมป์” แจงความหมายที่แท้จริง
- ‘ทรัมป์’ ปรากฏตัวครั้งแรก มีผ้าปิดแผลที่หู หลังเพิ่งรอดตายจากการถูกยิง
- จับพิรุธ ถอดตอนฉาย The Simpsons เหตุคล้ายซุ่มยิง “โดนัลด์ ทรัมป์”