ยูทูบเบอร์นักกินจุ ไลฟ์แฉแฟนเก่า ทุบตี-รีดไถ ขุดอดีตแบล็กเมล์

จากนั้นก็กล่าวต่อว่า “ก่อนเริ่มเป็นยูทูบเบอร์ ฉันเคยพักการเรียนและมีแฟน ตอนแรกเขาดีกับฉันมาก แต่ไม่นานเขาก็เริ่มใช้ความรุนแรง พอฉันพยายามจะเลิกกับเขา ทุกอย่างก็กลายเป็นฝันร้าย เขาแอบถ่ายคลิปวิดีโอของฉัน และใช้มันข่มขู่ฉัน บอกว่าจะปล่อยคลิปถ้าฉันไม่ยอมคบกับเขาต่อ ซ้ำยังทำร้ายร่างกายฉัน ด้วยการใช้ร่มและของแข็งอื่น ๆ ทุบตี”

“เขาพาฉันไปที่ทำงานของเขา (บาร์โฮส) โดยบอกว่า ฉันแค่ต้องรินเครื่องดื่มและคุยกับลูกค้า ฉันทำแบบนี้มาช่วงหนึ่ง แต่ไม่กล้าบอกเพื่อน ๆ เพราะเขาขู่ไว้ว่า จะเอาเงินที่ฉันหามาทั้งหมดไป ซึ่งประเด็นนี้ฉันก็มีหลักฐานการทำธุรกรรมมายืนยันความจริงด้วย ฉันกลัวเกินกว่าจะพูดอะไร แต่สุดท้ายก็บอกเขาว่าอยากเลิก เขาใช้ความรุนแรงอีกครั้งและขู่ว่าจะบอกครอบครัวฉัน ฉันมีรูปถ่ายตอนที่ฉันบาดเจ็บ จากการถูกทำร้าย เมื่อช่วงเดือนตุลาคม เขาจะตีฉันอย่างน้อยวันละสองครั้ง”

“ฉันบอกเขาว่าจะหาเงินจากการสตรีม เพราะฉันเคยคิดเรื่องนี้มาสักพักแล้ว และถึงแม้ฉันจะผันตัวมาทำช่องยูทูบแล้ว เขาก็ยังเอาเงินที่ฉันหามาได้ไปทั้งหมด ฉันไม่มีเงินแม้แต่จะซื้อไก่มาถ่ายคลิปกิน”

หลังจากที่ช่องของเธอเริ่มเติบโตขึ้น ผู้มีติดตามจำนวนมาก รายได้ก็มากขึ้น แฟนเก่าก็เปิดบริษัทและทำสัญญาที่ไม่เป็นธรรมกับเธอ โดยเอาส่วนแบ่ง 70% ของรายได้ทั้งหมด และทิ้งไว้ให้เธอเพียง 30% เขาเก็บตราประทับส่วนตัวและบัตรประชาชนของเธอไว้ ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา เธอไม่เคยได้รับรายได้จากการโฆษณาเลย

อดีตแฟนของเธอยังเคยแสดงตัวเป็นจือยางในช่องคอมเมนต์ เมื่อทีมงานของเธอรู้เรื่องนี้จึงแนะนำให้ฟ้องร้อง แต่ขณะนั้นเธอกลัวจะมีข่าวเสียหายจึงขอให้พวกเขาอย่าทำ จากนั้นอดีตแฟนของเธอก็เริ่มหันไปข่มขู่ทีมงานของเธอแทน

เนื่องจากเธอไม่สามารถพบปะผู้คนได้ ทีมงานของเธอจึงไปพบกับกลุ่มยูทูบเบอร์ที่ข่มขู่เธอแทน ผลก็คือ เธอไม่ทราบรายละเอียดทั้งหมดของเรื่องนี้

ก่อนที่จือยางจะอธิบายต่อว่า “เมื่อเธอฟ้องร้อง อดีตแฟนหนุ่มของเธอก็นำอดีตมาเปิดเผยให้กับยูทูบเบอร์คนอื่น ๆ รับรู้ และถึงแม้พวกเขาจะรู้อยู่แล้วว่าเธอตกอยู่ในสถานการณ์แบบไหน แต่ Gu Jae Yeok และ Jujak Inspector ก็ยังคงแบล็กเมล์เธอ

อดีตแฟนของเธอไม่สนใจคำขอร้องของเธอที่ขอให้เลิกยุ่ง พร้อมกับพูดว่า “มันยังไม่พอ” และ “ที่เธอประสบความสำเร็จได้ก็เพราะฉัน” เมื่อเธอตัดการติดต่อกับเขา เขาก็ไปขู่เพื่อน ๆ ของเธอต่อ

เมื่อไม่สามารถทนต่อการที่คนรอบข้างต้องได้รับความเดือร้อน ล่าสุดจือยางจึงปรึกษาทนายความ และดำเนินการฟ้องร้อง เธอกล่าวว่า “ฉันเคยคิดจะเลิกหลายครั้ง แต่ฉันไม่สามารถยอมแพ้ได้เพราะทีมงานที่ซื่อสัตย์ ฉันชินกับการถูกข่มขู่และทำร้ายร่างกาย แต่ฉันไม่อยากทำให้พนักงานที่รู้สึกเหมือนครอบครัวต้องผิดหวัง”

ไม่เพียงเท่านั้น จือยางยังย้ำอีกว่า “ฉันไม่อยากให้เรื่องนี้เป็นข่าว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม ฉันรู้ว่าฉันมีความรับผิดชอบ แม้ว่าฉันจะถูกบังคับก็ตาม เป็นเวลาห้าปีที่ฉันต้องอยู่อย่างหวาดกลัว ฉันขอโทษทุกคนที่ผิดหวังกับอดีตของฉัน ฉันไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้”

จากนั้น ทนายความของเธอก็ได้ให้คำอธิบายเพิ่มเติมและหลักฐานต่าง ๆ รวมถึงบันทึกเสียงและรูปถ่ายของการถูกทำร้าย ก่อนจะเปิดว่า อดีตแฟนติดหนี้เธออยู่ประมาณ 4 พันล้านวอน หรือ 100,000,000 บาท จือยางปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการหลบเลี่ยงภาษี โดยบอกว่าเธอไม่ทราบรายละเอียดทางการเงิน

อย่างไรก็ดี ขณะนี้จือยางได้แจ้งความเอาผิดอดีตแฟนหนุ่ม ในข้อหากระทำความผิดทางเพศ ทำร้ายร่างกาย ข่มขู่ บาดเจ็บ รีดไถ บังคับขู่เข็ญ และละเมิดกฎหมายการลงโทษความรุนแรงทางเพศ แต่คดีนี้ถูกปิดลงแล้ว เพราะอดีตแฟนหนุ่มปลิดชีวิตตัวเอง