กพ. (สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน) ประกาศ 3 ทางเลือกค่าไฟฟ้าใหม่ งวด กันยายน-ธันวาคม 2567 อาจพุ่งสูงสุดแตะ 6.01 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบันที่ 4.18 บาทต่อหน่วย
สาเหตุหลักมาจากค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ต้นทุนนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิตไฟฟ้าสูงขึ้น ประกอบกับการผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำและถ่านหินลดลง ราคา LNG Spot ในตลาดโลกเพิ่มขึ้นเนื่องจากความต้องการใช้ที่สูงขึ้นในช่วงฤดูหนาว ไม่รวมภาระหนี้ค่าเชื้อเพลิงที่ค้างชำระจากงวดก่อนหน้าที่ต้องทยอยจ่ายคืน
ทางเลือกที่ กกพ. เสนอ ได้แก่
1) จ่ายคืนหนี้ทั้งหมด ค่าไฟจะอยู่ที่ 6.01 บาทต่อหน่วย
2) จ่ายคืนหนี้ใน 3 งวด ค่าไฟจะอยู่ที่ 4.92 บาทต่อหน่วย
3) จ่ายคืนหนี้ใน 6 งวด ค่าไฟจะอยู่ที่ 4.65 บาทต่อหน่วย
แต่ละกรณีจะมีผลต่อสภาพคล่องทางการเงินของ กฟผ. และภาระหนี้คงค้างที่แตกต่างกัน
ดร.พูลพัฒน์ ลีสมบัติไพบูลย์ เลขาธิการ กกพ. เน้นย้ำว่า กกพ. ตระหนักถึงผลกระทบต่อค่าครองชีพของประชาชน แต่ก็จำเป็นต้องรักษาเสถียรภาพของระบบไฟฟ้าของประเทศด้วย จึงขอความร่วมมือประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงานตามหลัก “5 ป.” เพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าของตนเองและประเทศชาติ
ทั้งนี้ กกพ. จะเปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับค่าเอฟทีและค่าไฟฟ้าในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค. 2567 ผ่านทางเว็บไซต์สำนักงาน กกพ. ตั้งแต่วันที่ 12-26 กรกฎาคม 2567 ก่อนที่จะมีการสรุปและประกาศอย่างเป็นทางการต่อไป
หลักการคำนวณค่า Ft เดือน กันยายน-ธันวาคม 2567
การประชุม กกพ. ครั้งที่ 28/2567 เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2567 ได้พิจารณาและเห็นชอบการคำนวณค่าไฟฟ้าผันแปร (ค่า Ft) สำหรับช่วงเดือนกันยายนถึงธันวาคม 2567 โดย 3 ทางเลือกหลักข้างต้น แต่ละทางเลือกจะส่งผลต่อค่าไฟฟ้าที่ประชาชนต้องจ่าย และสถานะทางการเงินของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่แตกต่างกัน
กกพ. ได้พิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น แนวโน้มต้นทุนเชื้อเพลิงในช่วงเวลาดังกล่าว ซึ่งสะท้อนผ่านสูตรการปรับค่า Ft ที่ 34.30 สตางค์ต่อหน่วย และภาระต้นทุนคงค้าง (AF) ที่ กฟผ. ได้รับภาระแทนประชาชนในช่วงวิกฤตพลังงานที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ AF ที่เกิดขึ้นจริงจำนวน 98,495 ล้านบาท และมูลค่า AFGAS จำนวน 15,083.79 ล้านบาท
ทางเลือกที่ 1: จ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้างทั้งหมด
ในกรณีนี้ ค่า Ft จะอยู่ที่ 222.71 สตางค์ต่อหน่วย ซึ่งรวมถึงค่า Ft ตามสูตรการปรับ 34.30 สตางค์ต่อหน่วย และเงินเรียกเก็บเพื่อชดเชยต้นทุนคงค้างทั้งหมด 188.41 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 6.01 บาทต่อหน่วย ซึ่งเพิ่มขึ้น 44% จากงวดปัจจุบัน แม้ว่าจะเป็นภาระต่อประชาชน แต่จะช่วยให้ กฟผ. สามารถชำระหนี้ได้ทั้งหมดภายในสิ้นปีนี้
ทางเลือกที่ 2 และ 3: ทยอยจ่ายคืนภาระต้นทุนคงค้าง
ทางเลือกที่ 2 เสนอให้ทยอยจ่ายคืนหนี้ใน 3 งวด และทางเลือกที่ 3 เสนอให้ทยอยจ่ายคืนหนี้ใน 6 งวด ส่งผลให้ค่า Ft อยู่ที่ 113.78 และ 86.55 สตางค์ต่อหน่วย ตามลำดับ และค่าไฟฟ้าเฉลี่ยจะอยู่ที่ 4.92 และ 4.65 บาทต่อหน่วย ตามลำดับ แม้ว่าค่าไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นน้อยกว่าทางเลือกแรก แต่ กฟผ. จะยังมีภาระหนี้คงค้างอยู่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง