สาวหุ่นดี ป่วย ‘ไขมันพอกตับ’ หมอเตือน เป็นเพราะดื่ม ‘น้ำผลไม้’ ผิดวิธี

Danita S.เผยแพร่: 10 ก.ค. 2567 15:21 น.| อัปเดต: 10 ก.ค. 2567 15:21 น.

534

The girl is very thin but has severe fatty liver because of the fruit eating style that many people like.

อุทาหรณ์คนอยากผอม สาวน้ำหนัก 48 กิโลกรัม แต่กลับป่วย ‘ไขมันพอกตับ’ รุนแรง หมอชี้เป็นเพราะติดนิสัยดื่ม ‘น้ำผลไม้’ แบบผิด ๆ ที่เป็นกระแสในหมู่วัยรุ่น

ความเชื่อที่ว่าคนผอมไม่เสี่ยงเป็นโรคไขมันพอกตับ ไม่ใช่ความจริงแต่อย่างใด ดร.เว่ยซีหัง แพทย์ชาวไต้หวัน ออกมาเตือนว่า เพราะไม่ว่าคุณจะน้ำหนักเท่าไหร่ หรือหุ่นผอมเพรียวแค่ไหน แต่ถ้ามีไขมันในตับเกิน 5% ของน้ำหนักตับ ก็เท่ากับว่าคุณเป็นโรคไขมันพอกตับ

Advertisements

แม้คนอ้วนจะมีความเสี่ยงสูงกว่า แต่คนผอมก็ไม่ได้หมายความว่าจะรอดพ้นจากโรคนี้ โดยเฉพาะคนที่อดอาหารหรือควบคุมน้ำหนักแบบผิด ๆ ยิ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ

ตัวอย่างเช่น เคสของ คุณหลิน สาวไต้หวัน วัย 30 ปี สูง 163 เซนติเมตร แต่น้ำหนักไม่ถึง 48 กิโลกรัม ซึ่งถือว่าผอมมาก นอกจากหน้าท้องที่ใหญ่เล็กน้อย แต่แขนและขาของเธอก็เรียวเล็ก หากมองภายนอกแทบไม่เชื่อว่าน้ำหนักจะเกิน 45 กิโลกรัม โดยเธอเริ่มสังเกตได้ถึงความผิดปกติตอนที่เห็นหน้าท้องใหญ่ขึ้น แต่ในคราแรกก็คิดว่าเป็นเพราะนั่งทำงานออฟฟิศนาน ๆ

ไขมันพอกตับ

นานวันเข้าก็เริ่มรู้สึกเหนื่อยเรื้อรัง ปวดบริเวณชายโครงด้านขวา เบื่ออาหาร และรู้สึกคลื่นไส้เมื่อรับประทานอาหารมัน ๆ และหลังจากไปพบแพทย์กลับต้องตกใจหนัก ผลตรวจระบุว่า คุณหลินเป็นไขมันพอกตับระยะที่ 2 แล้ว โดยมีไขมันสะสมในตับประมาณ 12% ของน้ำหนักตับ ซึ่งถือว่าค่อนข้างสูง หากไขมันสะสมอยู่ที่ 5-10% จะเป็นระยะที่ 1 ซึ่งมักตรวจพบได้ยากเพราะไม่มีอาการชัดเจน

เมื่อซักประวัติ แพทย์ก็พบว่า ผู้ป่วยสาวต้องการลดน้ำหนักจึงดื่มน้ำผลไม้แทนอาหารเช้าและอาหารเย็นเป็นประจำ แต่เพราะเป็นคนชอบรสหวานและกลัวขาดสารอาหาร เธอจึงเลือกใช้ผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง และยังเติมน้ำตาลและน้ำผึ้งลงไปอีกด้วย ซึ่งความเข้าใจผิดในการกินผลไม้เช่นนี้เป็นที่นิยมมากในกลุ่มผู้ต้องการลดน้ำหนัก ทั้ง ๆ ที่ในความจริงแล้วกลับส่งผลเสียต่อสุขภาพร้ายแรง