ข่าวภูมิภาค

พบซากพะยูนกลางทะเลเกาะลิบง จ.ตรัง ส่งตรวจซากที่ภูเก็ต

ภาพ: ทช.

วันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากนายไมตรี แสงอริยนันท์ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 10 (สบทช.10) ว่าพบซากพะยูนลอยตายอยู่บริเวณกลางทะเลระหว่างเกาะลิบงกับท่าเทียบเรือหาดยาว ม.6 ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง

Advertisements

โดยมีนายบัญญัติ กังงิ่น อายุ 41 ปี ชาวตำบลเกาะลิบง อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง อาชีพขับเรือโดยสารเป็นผู้พบซากพะยูนตัวดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่สบทช.10 จึงได้ออกทำการตรวจสอบพบว่าเป็นซากพะยูนเพศเมีย ขนาดความยาว 2.0 เมตร รอบลำตัว 2.0 เมตร น้ำหนักประมาณ 250 กิโลกรัม สภาพซากเริ่มเน่า ไม่พบบาดแผลฉกรรน์

จึงได้ลงบันทึกประจำวันใว้ที่ สภ.กันตัง อ.กันตัง จ.ตรัง จากนั้นได้ทำการนำส่งซากดังกล่าวไปที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามัน (จ.ภูเก็ต) เพื่อผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการตายต่อไป

นายจตุพร อธิบดี ทช. กล่าวว่า พะยูน เป็นสัตว์ป่าสงวนชนิดหนึ่ง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 และอยู่ในบัญชีหมายเลข 1 ตามอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ (CITES) ที่ห้ามค้าโดยเด็ดขาด เนื่องจากใกล้สูญพันธุ์ ยกเว้น เพื่อการศึกษาวิจัยหรือเพาะพันธุ์

ซึ่งต้องได้รับคำยินยอมจากประเทศที่จะนำเข้าเสียก่อน อย่างไรก็ตามที่ผ่านมา กรม ทช. ได้ร่วมกับชุมชนในพื้นเกาะลิบง และเกาะมุก จ.ตรัง ฟื้นฟูแหล่งหญ้าทะเลซึ่งเป็นแหล่งอาหารที่สำคัญทำให้จำนวนพะยูนเพิ่มมากขึ้น 5 – 10 % เพื่อลดอัตราการตายของพะยูน ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากติดอวนและเครื่องมือประมง ชาวบ้านในพื้นที่ก็จะช่วยกันอย่างเต็มกำลัง เพื่อให้ประชากรของพะยูนไม่สูญหายไปจากท้องทะเลจังหวัดตรัง

พร้อมกันนี้ ขอฝากเน้นย้ำให้ชาวประมงในพื้นที่งดการใช้เครื่องมือประมงที่เป็นอันตรายต่อชีวิตพะยูนในแหล่งที่อยู่อาศัยของพะยูน หรือในแหล่งหญ้าทะเล เช่น อวนลอยและอวนตาถี่ชนิดต่างๆ หรือโป๊ะ แต่ถ้าหากจำเป็นต้องทำก็ขอให้หมั่นตรวจตราดูแลเครื่องมือประมงอย่างสม่ำเสมอ หากพบพะยูนติดอยู่ต้องรีบปล่อยทันที

Advertisements

นอกจากนี้ ทุกคนควรให้ความสำคัญในเรื่องของการติดตามข่าวสารและไม่สนับสนุนการทำประมงที่ผิดกฎหมาย รวมทั้งการไม่สร้างมลพิษให้เกิดขึ้นในสิ่งแวดล้อม เพื่อไม่ส่งผลกระทบที่ทำลายต่อระบบนิเวศทางทะเล ก็จะเป็นการช่วยกันอนุรักษ์ที่สำคัญอีกทางหนึ่งเช่นกัน “นายจตุพร กล่าวทิ้งท้าย”

ข่าว ทช.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button