ข่าว

นักท่องเที่ยวหายภูสอยดาว ผ่านไปวันที่ 5 ยังไม่พบ ทุกอย่างเงียบสนิท

นักท่องเที่ยวหายภูสอยดาว ผ่านไปวันที่ 5 ยังไม่พบ เจ้าหน้าที่เผยทุกอย่างเงียบสนิท แม้ตอนขึ้น ฮ. ก็ไม่ได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ หรือเห็นคนโบกมือ

นายโกเมศ พุทธสอน ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) เดินทางมาที่ศูนย์บัญชาการค้นหาผู้พลัดหลง ที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เขตรอยต่ออุตรดิตถ์-พิษณุโลก เพื่อติดตามสถานการณ์ นายธัญวริช อายุ 27 ปี ชาว จ.มหาสารคาม สูญหายระหว่างการเดินเท้าขึ้นลานสนภูสอยดาว เขตจังหวัดอุตรดิตถ์ ตั้งแต่วันที่ 4 กรกฎาคม 2567 และยังหาไม่พบ

Advertisements

นายทศพร ปภากุล ผอ.ส่วนอุทยานสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ศูนย์บัญชาการค้นหาผู้พลัดหลง อช.ภูสอยดาว กล่าวถึงกรณีนักท่องเที่ยวหายภูสอยดาวว่า ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จนท.ไฟป่า ,ตชด.ฯลฯ รวมทั้งสิ้น 61 นาย จึงได้แบ่งกำลังออกเป็น 4 ชุดปูพรมค้นหา นายธัญวริช แต่ยังไม่พบร่อยรอย แม้ได้รับการสนับสนุนหน่วยบินเฮลิคอปเตอร์ กรมอุทยานฯ

นายฟารุต ใจทัศน์กุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เปิดเผยว่า ขึ้นเฮลิคอปเตอร์บินจำนวนรอบที่ 2 เพื่อค้นหานักท่องเที่ยวสูญหาย ผลจากชุดลาดตะเวนพื้นราบ 61 คน ชี้เป้าต้นกล้วยล้ม จึงตรวจสอบภาคพื้นทางอากาศพบว่า ต้นกล้วยล้มนั้นเป็นผลจากสัตว์ป่าเหยียบเป็นช่วงๆ นักบินได้บินวนหลายรอบแล้ว ก็ไม่พบ ทุกอย่างเงียบสนิท ปกติคนหลงป่า เมื่อได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์ ก็ควรอยู่ที่โล่งแจ้ง หรือรออยู่บริเวรลำห้วยเพื่อโบกมือขอความช่วยเหลือ

ทั้งนี้ตามประวัติของนายธัญวริช ได้มาสมัครงานฟาร์มหมูแห่งหนึ่งที่ อ.ทองแสนขัน อุตรดิตถ์ โดยวันที่ 1 และ 2 ก.ค.67 ถูกกักตัว และวันที่ 3 ก.ค. ได้ทำงานวันแรก กระทั่งวันที่ 4 ก.ค.ได้แจ้งกับทางฟาร์มหมูว่า เดินทางกลับบ้านที่มหาสารคาม จึงให้รถที่ฟาร์มหมู มาส่งที่ บขส.อุตรดิตถ์ จากนั้นได้นั่งรถแกรบมาส่งแหล่งท่องเที่ยว อช.ภูสอยดาว โดยไม่ได้กลับบ้านที่มหาสารคาม

อุปกรณ์ที่ค้นพบอยู่ในกระเป๋า คือเอกสารต่างๆ การทำงานและมีโน้ตบุ๊ก พร้อมของกินมาม่าคัพ สบู่ ยาสระผม แต่ไม่มีอุปกรณ์เดินป่า อาทิ เปล หรือเครื่องดำรงชีพในป่า

สอบถามเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าที่เดินค้นหา เปิดเผยว่า หนุ่มมหาสารคาม เตรียมไปลานสน แต่ไปเพียงเนินวัดใจ หรือจุดแรกระยะ 650 เมตร (จากเป้าหมายต้องเดินขึ้นไป 2 กิโลเมตรถึงลานสน) แต่กลับพบว่า ได้เดินออกนอกเส้นทาง โดยเดินข้ามห้วย และถอดรองเท้าและกระเป๋า ไว้ฝั่งตรงข้ามลำห้วย ตรวจสอบเชิงลึกพบว่า หนุ่มนั้นอาจตกหลุมจึงต้องถอดรองเท้าและวางกระเป๋าไว้ ซึ่งตรวจค้นรัศมีรอบๆ ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ บริเวณดังกล่าวก็ไม่มีหน้าผา หรือ ลำห้วยขนาดใหญ่แต่อย่างใด

Advertisements

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button