แม่ใจสลาย ลูกสาว 1 ขวบ เหยื่อข่มขืน หัวใจเต้นเหลือ 30% เมียไอ้หื่นไลฟ์สดโต้กลับ
จากกรณี หนุ่มหื่นทำร้ายร้างกายและข่มขืนเด็กวัย 1 ขวบ 9 เดือน ด้านภรรยาผุ้ก่อเหตุไลฟ์สดโต้กลับ อ้างเอาลูกมาให้ดูแลทำไม แพทย์แจ้งข่าวร้ายให้ครอบครัวทำใจ เพราะหัวใจของเด็กเต้นช้าลง
ความคืบหน้าคดีสะเทือนขวัญ ช่วงค่ำของวันที่ 6 กรกฎาคม 2567 นายพิชิต วัย 50 ปี อ.องครักษ์ จ.นครนายก ก่อเหตุทำร้ายร่างกายและข่มขืนเด็กหญิงวัยเพียง 1 ขวบ 9 เดือน จนอาการสาหัส อวัยวะเพศฉีกขาด ขณะนี้กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลนครนายก โดยผู้ปกครองเผยว่า หมอแจ้งให้อยู่ในความสงบและทำใจ เนื่องจากหัวใจของลูกเต้นเหลือเพียง 30% เท่านั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ภรรยาของนายพิชิต ได้ออกมาไลฟ์สดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โต้กลับครอบครัวเหยื่อ อ้างว่าครอบครัวเด็กไม่เคยดูแลลูกสาว ปล่อยให้อยู่กับตนเพียงลำพัง แถมยังให้เงินไม่พอเลี้ยงดู นอกจากนี้วันที่เกิดเหตุครอบครัวของเด็กสาวนำน้องมาฝากให้เลี้ยง มีชุดนอนเพียงชุดเดียว ซึ่งตนเองไม่คาดคิดว่าสามีจะกระทำการเช่นนี้ เมื่อตนกลับมาจากที่ทำงานและเห็นว่าน้องมีบาดแผลตามร่างกายจึงรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล
อย่างไรก็ตาม ตนขอให้ประชาชนคอยดูผลการตรวจร่างกายของเด็กออกมาก่อน มิใช่เชื่อคำกล่าวอ้างของครอบครัว ซึ่งครอบครัวของตนและสามีได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ไปด้วย วอนขอให้ทางครอบครัวของเหยื่อหยุดให้ร้ายกัน เนื่องจากสามีถูกดำเนินคดีตมกฎหมายเรียบร้อยแล้ว
ภรรยาผู้ต้องหา อธิบายเพิ่มเติมว่า ตนเองพยายามเลี้ยงเด็กสาวเต็มความสามารถแล้ว จึงอยากถามกลับไปทางครอบครัวว่า เมื่อเกิดเหตุร้ายขึ้นมีญาติออกมาเรียกร้องความเป็นธรรมกันมากมาย ทำไมไม่รับตัวน้องไปดูแลกันเอง เหตุใดจึงนำมาฝากให้ตนและสามีเลี้ยงดู
หลังจากครอบครัวของเด็กเห็นคลิปวิดิโอดังกล่าว จึงได้ออกมายืนยันความบริสุทธิ์ พร้อมทั้งปฏิเสธว่าคำกล่าวอ้างนั้นไม่เป็นความจริง ทางครอบครัวดูแลหลานสาวอย่างดี รวมทั้งให้เงินช่วยเหลือตลอด ไม่เคยทอดทิ้งแต่อย่างใด
ทั้งนี้ แม่ของน้องเปิดเผยว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับมาจากต่างจังหวัด และแพทย์แจ้งข่าวร้ายว่า เบื้องต้นให้ทางครอบครัวทำใจไว้ก่อน เพราะตอนนี้หัวใจของน้องเต้นเหลืออยู่เพียง 30% เท่านั้น นอกจากนี้ยังมีบาดแผลและรอยฟกช้ำตามร่างกาย และมีร่องรอยที่อวัยวะเพศจริง
คดีนี้ยังอยู่ในระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งต้องรอผลตรวจร่างกายของเด็กอย่างละเอียดอีกครั้ง ส่วนแม่เด็กยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และฝากคำถามถึงผู้ก่อเหตุว่า “ทำลูกหนูทำไม”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง