‘ทนายเดชา’ ป้อง ‘ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง’ สวนคนแฉมีคดีติดตัวเพียบ
ทนายเดชา โดดป้อง ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ชูช่วยเหลือประชาชนมามาก สวนคนที่มาแฉมีบาดแผล คดีติดตัวเพียบ เป็นคนที่เคยทำงานร่วมกัน
จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาโพสต์ข้อความระบุว่ามีเสียหายรายถูกประธานมูลนิธิดัง แอบอ้างขายวุฒิการศึกษาปริญญาตรี มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในราคา 200,000 บาท โดยประธานมูลนิธิคนดังกล่าวจะได้เปอร์เซ็นต์จากเงินส่วนนี้ และยังมีการแอบอ้างซื้อขายตำแหน่งในรัฐสภาราคา 60,000 บาท กระทั่งปัจจุบันเมื่อมีการทวงถามไปก็ตอบบ่ายเบี่ยง ทำให้เมื่อวาน (1 ก.ค.67) ผู้เสียหายจึงเดินทางไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองสกลนคร เอาผิดกับเจ้าของมูลนิธิดังกล่าว ก่อนที่ในเวลาต่อมา ต้นอ้อ ชลิดา พะละมาตย์ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง จะออกมาปฏิเสธข้อกล่าวหานั้น
ล่าสุด นาย เดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา ประธานเครือข่ายทนายคลายทุกข์ ไลฟ์เฟซบุ๊กถึงประเด็นดังกล่าว โดยระบุว่า ต้นอ้อกับตนมีความสนิทสนมกัน เพราะเป็นพี่น้องกัน ต้นอ้อมีความรู้ความสามารถพิเศษเกี่ยวกับเรื่องการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนคืองานหลัก ซึ่งก็เป็นประธานมูลนิธิที่เพิ่งตั้งมาได้ไม่นาน ถือเป็นผลงานของเธอ ถ้าเราติดตามข่าวสารก็จะเห็นว่า ต้นอ้อช่วยเหลือประชาชนเป็นจำนวนมาก แต่ช่วงนี้โดนโจมตีจากกลุ่มคู่กรณีที่เคยทำงานร่วมกัน และมีเครือข่ายที่ไม่ชอบก็ออกมาแฉ ซึ่งคนที่ออกมาแฉ ต้นอ้อบางคนก็มีคดีความรุมเร้าอยู่ในศาล บางคนก็ชักชวนคนอื่นไปลงทุนหลัก 100 ล้านบาท แล้วก็มีปัญหาฟ้องร้องกันในศาล ตัวเองก็มีแผลอยู่ แต่ก็มาเปิดแผลต้นอ้อ
ทนายเดชา กล่าวต่อว่า ต้นอ้อโทรศัพท์มาปรึกษาตนว่าโดนคนที่เคยช่วยเหลือ และคนที่เคยอยู่ในมูลนิธิเดียวกันออกมาแฉ และมาร่วมมือกัน มีทั้งทนายเชื่อมจิตและคู่กรณีบางคนอ้างตัวเป็นคนดัง ปรากฏว่ามีคดีในศาลเรื่องชักชวนคนลงทุน แต่ละคนก็มีแผลเต็มตัว ที่ออกมาแฉต้นอ้อ ทั้งนี้ต้นอ้อแจ้งกับตนว่า เขาให้การปฎิเสธ และปฏิเสธว่าไม่ได้ไปซื้อขายตำแหน่งอะไร ทั้งในสำนักนายกรัฐมนตรี หรือคณะกรรมาธิการของสภาฯ และปฏิเสธเกี่ยวกับเรื่องการซื้อวุฒิการศึกษาปลอม
ทั้งนี้ต้นอ้อฝากให้คนเหล่านั้นช่วยไปแจ้งความดำเนินคดีต้นอ้อให้ถึงที่สุด อย่าแค่ออกมาโพสต์หรือแฉเท่านั้นแล้วก็จากลาไป โดยมาทำให้เสื่อมเสีย เพราะฉะนั้นถ้ามีหลักฐานว่าต้นอ้อเกี่ยวข้องกับการซื้อขายตำแหน่งขอให้ไปแจ้งความดำเนินคดีให้ถึงที่สุด แต่ถ้ามาแฉแล้วเงียบไป ไม่มีใครติดคุก พวกที่แฉก็ต้องรับผิดชอบ
เพราะฉะนั้นทุกคนมีทั้งดีและด้านมืด ตนเชื่อว่ามูลนิธิเป็นหนึ่งมีประโยชน์ต่อประชาชน โดยเฉพาะเด็กและสตรี และต้นอ้อ เป็น 1 ในทีมอเวนเจอร์เชื่อมจิต แต่ตอนนี้กลับมีทนายเชื่อมจิตไปร่วมมือกับคนแฉร่วมกัน เพราะฉะนั้นในเมื่อแฉมาบอกว่าต้นอ้อทำผิดก็ต้องมีการดำเนินคดีต้นอ้อให้ถึงที่สุด แต่ถ้าหยุดแค่นี้ก็แสดงว่าเป็นเรื่องใส่ร้ายป้ายสี ต้องให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ถ้าไม่มีใครติดคุก แสดงว่าไอ้พวกเหล่านี้ต้องติดคุกแทน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง