‘ไบเดน’ โบ้ย ‘เจ็ทแล็ก’ เดินทางบ่อย ต้นเหตุทำดีเบตประธานาธิบดีพัง
โจ ไบเดน เปิดใจครั้งแรกหลังดีเบตประธานาธิบดีว่าสาเหตุที่พูดตะกุกตะกักเพราะ เจ็ทแล็ก เดินทางบ่อย ขอโทษกับผลงานที่ย่ำแย่
เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม สำนักข่าว BBC รายงานว่า นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการดีเบตระหว่างเขากับนาย โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ท้าชิงจากพรรคริพับลิกัน ที่ผลออกมาเป็นหายนะของนายไบเดน และมีการตั้งคำถามถึงอายุของเขา เนื่องจากในระหว่างการโต้เวทีนาย ไบเดน พูดตะกุกตะกัก พูดไม่ค่อยรู้เรื่องนั้น
โดยนาย ไบเดน กล่าวอ้างว่าสาเหตุที่ผลงานดีเบตของเขาย่ำแย่ เพราะเขาเดินทางบ่อยและเกิดอาการเจ็ทแล็ก ซึ่งเขายอมรับว่าเป็นความคิดที่ไม่ค่อยฉลาดสำหรับเขาที่เลือกจะเดินทางรอบโลกในช่วงก่อนดีเบต อย่างไรก็ตามสำนักข่าว BBC ชี้ว่าเขากลับมาถึงสหรัฐฯ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน เกือบ 2 สัปดาห์ก่อนดีเบต
ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวต่ออีกว่า เขาไม่ได้กำลังหาข้ออ้าง แต่นั่นคือคำอธิบายสำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งขอโทษกับผลงานของเขา พร้อมตอกย้ำว่ามันเป็นเรื่องสำคัญขนาดไหนที่เขาจะต้องชนะเลือกตั้งในครั้งนี้
ทั้งนี้หนังสือพิมพ์ New York Times ได้รายงานอ้างอิงจากแหล่งข่าวใกล้ชิดว่านาย ไบเดน เริ่มทำงานเวลา 11.00 น. และทุกวันเขาจะต้องงีบ และจากการที่เขาเดินทางบ่อย ทำให้เขาเหลื่อยล้า ส่งผลให้การเตรียมตัวขึ้นดีเบตของเขาต้องสิ้นสุดก่อนเวลาอันควรเพื่อให้เขาไปพักผ่อน
โดยจากข้อความที่ทางสำนักข่าว CNN ได้รับจำนวน 565 คน พบว่าผู้ชมให้นาย ทรัมป์ ชนะ ไบเดน ด้วยคะแนน 67 ต่อ 33 เปอร์เซนต์ ซึ่งคะแนนโหวตดังกล่าวถือว่ามากกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าน่าจะเป็นทรัมป์ที่ชนะด้วยคะแนน 55 ต่อ 44 เปอร์เซนต์
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- โพล CNN เผยผู้ชมโหวตให้ ‘ทรัมป์’ ชนะดีเบตประธานาธิบดี ร้อยละ 67
- ‘ไบเดน’ อาการหนัก ตะกุกตะกักกลางเวทีดีเบตเลือกตั้ง ปธน. กับ ‘ทรัมป์’
- ลูกชาย ‘โจ ไบเดน’ ถูกพิพากษามีความผิดอาวุธปืน พ่อยืนยันไม่นิรโทษกรรมให้