‘บิ๊กแจ๊ส’ เปิดใจหลังพ่าย ‘ลุงชาญ’ ศึกเลือกตั้งนายก อบจ. ปทุมธานี
บิ๊กแจ๊ส ให้สัมภาษณ์เปิดใจหลังพ่าย ลุงชาญ ในศึกเลือกตั้งนายก อบจ. ปทุมธานี ยอมรับคะแนนเสียงของพี่น้อง หลังจากนี้จะกลับไปดูแลคนไข้
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือ บิ๊กแจ๊ส อดีตนายก อบจ.ปทุมธานี ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากที่ ผลเลือกตั้งนายก อบจ. ปทุมธานี อย่างไม่เป็นทางการปรากฎออกมาว่า นายชาญ พวงเพ็ชร์ ผู้สมัครหมายเลข 1 เป็นฝ่ายชนะอย่างเหนือความคาดหมายนั้น
โดย บิ๊กแจ๊ส กล่าวว่า ขณะนี้ตนแพ้คะแนนแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่าแพ้เท่าไร ยืนยันว่าเคารพในระบบประชาธิปไตยอยู่แล้ว ทุกอย่างอยู่ที่เสียงของพี่น้องประชาชน เมื่อเสียงของพี่น้องประชาชนออกมาแบบนี้ ก็ต้องเป็นไปตามขั้นตอน ต่อไปก็อยู่ที่ กกต.แล้ว จะรับรองอย่างไร ก็ว่ากันไป ตนเองก็สบายใจที่มาถึงจุดนี้ ที่เคยบอกกี่ครั้งว่าตนไม่เคยที่จะมาคิดที่จะมาเล่นการเมือง แต่เมื่อพี่น้องประชาชนขอให้มา ตนมาก็ลงมาทำอย่างเต็มความสามารถที่มาช่วย 3 ปี 3 เดือน ที่อยู่ท่ามกลางโรคระบาด และวิกฤตอะไรหลายอย่าง
เมื่อพี่น้องประชาชนลงคะแนนมาแบบนี้ ตนก็คงไปรักษาคนไข้ของตนแบบที่เคยให้สัมภาษณ์ไว้ ได้มีเวลาดูแลคนไข้มากขึ้น ระหว่างที่ตนเป็น นายกอบจ.อยู่นั้นรู้สึกเลยว่ามีเวลาดูแลรักษาคนไข้ของตนเพียงเสาร์อาทิตย์เท่านั้นเอง เช้าถึงเที่ยงต่อไปนี้คงมีเวลาเยอะ ยกเว้นวันพระเท่านั้นเอง และกลายไปใช้ชีวิตแบบเดิมๆ พาหลานๆ ตีกอล์ฟตนไม่เครียด จะเป็นห่วงบ้านเมืองเท่านั้นเอง เชื่อว่าพี่น้องประชาชนคงเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
จะมีบางหน่วยเท่านั้นที่ประชาชนไปใช้สิทธิ แต่ปรากฏว่ามีคนไปใช้สิทธิของเขาแล้วตนได้ประสานไปที่ กกต.เขาก็ให้เจ้าตัวเขาได้แจ้งความประสงค์ไปที่หน่วยเลือกตั้ง แสดงว่าเขาก็เสียสิทธิไปอีก 1 คะแนน ก็ฝากให้ กกต.ให้สอบสวนให้เร็ว เรามองด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม เราไม่เคยที่จะไปซื้อเสียงใดๆ ทั้งสิ้น ตนเคยบอกแล้วว่าศักดิ์ศรีเรามีแต่คะแนนที่ออกมา พี่น้องประชาชนเขารู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร ตนยังมั่นใจว่าที่ตนลาออกก่อนเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
เพราะว่าปีนี้ ถ้าน้ำหลากมาเป็นปีพิเศษ 3 ปีเป็นภาวะปกติใช้กฎหมายท้องถิ่นตามปกติแต่ปีที่ 4 เมื่อเข้า 6 เดือน 180 วัน มันทำไม่ได้ แต่ถ้าเกิดน้ำหลากมาเราได้เห็นพ้องต้องกันกับ จ.นครสวรรค์ อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา และปทุมธานี เราจับมือกันดูแลพี่น้องประชาชนมาตลอด 3 ปีที่ผ่านมา หากตนรับเงินเดือนแล้ว หากเจออุทกภัยไปช่วยเหลือไม่ได้ ตนก็ไม่เอาจะมากินเงินเดือนทำไมในเมื่อพี่น้องเป็นคนเดือดร้อน นี่คือสิ่งที่ตนพูดตั้งแต่ต้น ยังยืนยันว่าเราตัดสินใจถูกต้อง
การเมืองในอนาคตอยู่ที่พี่น้องประชาชน แต่ตอนนี้เราก็อยู่ของเรา ดูแลคนไข้ที่ไม่ได้ดูแลมาตั้งนาน ตนสงสารเขาเท่านั้นเอง เมื่อเขามาแล้วเราดูแลเขาไม่ได้ โครงการต่างๆ ที่เคยทำไว้ก็อยู่ที่ผู้บริหารชุดใหม่จะเอามาทำต่อหรือไม่ใน เมื่อพี่น้องประชาชนลงมติมาแบบนั้นโครงการต่างๆ ใครจะสานต่อก็จะสานต่อ ตนก็คงหมดปัญญาที่จะสานต่อแล้ว เพราะบางโครงการมันจำเป็นจริงๆ อย่างโครงการฉีดวัคซีนที่เราทำไว้ พี่น้องบางคนก็ฉีดไม่หมด เมื่อตนลาออกมาก็มีการยกเลิกไม่มีการซื้อต่อ และลูกหลานเราอีก 200,000 ชีวิต ที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่เมื่อเป็นมติพี่น้องประชาชนเราก็ต้องยอมรับขอบคุณน้องๆ ทุกคนเลยที่ให้เกียรติ และมีความห่วงใย
“พี่แจ๊สสบายๆ เพราะพี่แจ๊สปีนี้ 70 แล้ว ชีวิตผ่านร้อนผ่านหนาวมาเยอะ ฝากพี่น้องชาวปทุมธานีไว้ก็แล้วกัน หลังจากการเลือกตั้งแล้ว ผมคงเฉยแล้ว ไม่ร้องเรียนอะไร ผมเป็นลูกผู้ชายพอ แต่ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง อันนั้นก็ให้ กกต.สอบไป เพราะขั้นตอนมันไปแล้ว แต่หลังจากนี้ผมคงไม่ทำบันทึกร้องเรียนหลังจากเลือกตั้ง เดี๋ยวจะมองว่าแพ้แล้วไปหาเรื่องร้องเขา ไม่เอาไม่ใช่นิสัยเรา ก็ดีใจกับพรรคเพื่อไทยด้วย แต่ผมก็คือน้อง พี่ก็คือพี่ พี่เขาจะทำอะไรก็เรื่องของพี่เขาก็เท่านั้นเอง ผมก็เหมือนเดิมไม่มีปัญหา ฝากด้วยความห่วงใยแล้วกัน ขอให้พี่เขาประสบความสำเร็จ และพ้นคดีต่างๆอย่างสง่างามกลับมาอย่างโก้ๆ เท่านั้นเอง” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าว
สำหรับเรื่อง สจ.ก็เป็นเรื่องของ สจ.แต่ละท่านที่ต่อจากนี้ไปก็ยังว่ากันไปก่อน วันนี้ตนก็คงตอบอะไรไม่ได้ เดี๋ยวคงต้องหารือกัน สำหรับลูกชายนายกฯโบลิ่งก็อยู่ที่ตัวเขาพัฒนารังสิตมาเยอะแล้ว อยู่ที่พี่น้องประชาชนที่จะอยากให้เป็นนายกฯ ต่อก็เลือกไปส่วนตนต่อจากนี้ก็จะรักษาคนไข้อาทิตย์ละ 5 วัน สบายๆ แล้วอาจจะเป็นพรุ่งนี้หรือมะรืนนี้ เราจะแห่ขอบคุณพี่น้องประชาชน ตนต้องขอบคุณพี่น้องประชาชนทุกคะแนนเสียงด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรมจริงๆ ตนไม่เคยเสียเงินซื้อเสียงพี่น้องประชาชน เชื่อว่าพี่น้องประชาชนรู้ดี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง