หนุ่มหัวหมอ ‘ยัดเสื้อผ้าใส่ปลอกหมอน’ ไม่จ่ายค่าสัมภาระ ก่อนโป๊ะแตก โดนแบน-ถูกรวบ
หนุ่มนักทอ่งเที่ยวหัวหมอ เลียนแบบทริคไวรัล ‘ยัดเสื้อผ้าใส่ปลอกหมอน’ ตีเนียน ไม่ต้องจ่ายค่าน้ำหนักกระเป๋า สุดท้ายโป๊ะแตก โดนแบนห้ามบิน ซ้ำถูกตำรวจรวบ
สำนักข่างต่างประเทศ The Sun ได้รายงานถึงคลิปเหตุการณ์ชุลมุนที่เกิดขึ้น ณ สนามบินนานาชาติออร์แลนโด ประตู 17 คลิปดังกล่าวได้เผยให้เห็นวินาทีที่หนุ่มนักท่องเที่ยวรายหนึ่งถูกห้ามขึ้นเครื่องบิน หลังจากเจ้าหน้าที่จับได้ว่า เขาใช้กลโกงการแพ็คกระเป๋าที่กำลังเป็นไวรัล ‘ยัดเสื้อผ้าใส่ปลอกหมอน’
วิธีการของกลโกงนี้คือ นำเสื้อผ้าใส่ลงในปลอกหมอน เพื่อหลีกเลี่ยงการต้องจ่ายเงินค่าน้ำหนักกระเป๋าสำหรับโหลดลงใต้เครื่อง ความแนบเนียนของกลนี้ก็คือ การที่หมอนจัดเป็นสิ่งของที่นำมาใช้เพื่อความสะดวกสบาย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ที่จะไม่มีใครทันสังเกตว่า สิ่งที่ถูกยัดในปลอกหมอนไม่ใช่หมอนแต่เป็นสิ่งอื่น
คลิปดังกล่าวได้เผยให้เห็นภาพเหตุการณ์ตั้งแต่จุดเริ่มต้น นักท่องเที่ยวชายหัวหมอรายนี้ยืนกรานกับเจ้าหน้าที่สนามบินว่าจะเอาปลอกหมอนรูปร่างแปลกประหลาดขึ้นเครื่องบินให้ได้ โดยอ้างว่ามันเป็นแค่ปลอกหมอนธรรมดา ทั้ง ๆ ที่เจ้าหน้าที่ก็ปฏิเสธและสวนกลับว่าไม่เชื่อคำพูดของเขา
การเจรจาดำเนินไปเรื่อย ๆ และก็ใกล้ถึงเวลาขึ้นเครื่องมากทุกที ทางเจ้าหน้าที่จึงเสนอทางเลือกให้จ่ายเงินค่าสัมภาระเพิ่ม แต่เขาก็ไม่ยอมจ่าย จนกระทั่งถึงวินาทีสุดท้ายที่ประตูเครื่องบินปิด นักท่องเที่ยวรายนี้จึงบอกว่ายอมจ่าย ก่อนจะพยายามเบียดตัวเองเข้าไปในเครื่องบิน
ถึงอย่างนั้นมันสายไปแล้ว เจ้าหน้าที่สั่งให้ถอยออกจากประตู ด้วยเหตุผลที่ว่าให้โอกาสแล้วแต่ไม่ยอมจ่ายตั้งแต่แรก และสุดท้ายเรื่องราวก็ไปถึงขั้นเรียกตำรวจมาเชิญตัวออกไป
โพสต์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากชาวเน็ตอย่างล้นหลาม อาทิในข้อความที่ว่า “สนามบินเป็นที่ที่เราควรทำตัวเป็นพลเมืองดี ไม่กลัวติดคุกหรือโดนขึ้นบัญชีดำกันหรือไง?” และ “พนักงานสนามบินเค้าก็เล่น TikTok นะ พวกเขาเห็นคลิปพวกนี้เหมือนกันแหละ”
อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเสมือนเครื่องเตือนใจว่า แม้จะถูกยกย่องว่าเป็นไอเดียสุดบรรเจิดในโลกออนไลน์ แต่มันกลับไม่ใช่ความคิดที่ดีนักในโลกความเป็นจริง ซ้ำอาจจะก่อให้เกิดผลเสียร้ายแรงเกินคาดคิด
ข้อมูลจาก The Sun
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง