‘ทนายนพ’ ใช้ไขควงแทงแขนหน้าธนาคาร ประท้วงหลังถูกดูดเงินล้าน
ทนายนพ ใช้ไขควงแทงแขนหน้าธนาคาร ประท้วงหลังไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมารับหนังสือหรือพูดคุยเจรจา จากกรณีที่ถูกดูดเงินล้าน เผยทุกวันนี้เงินกินข้าวไม่มีแล้ว
จากกรณีที่ นายนพ สุขาภิรมย์ หรือ ทนายนพ ทนายความใน จ.ราชบุรี กำลังยืนอยู่ที่หน้าธนาคาร ผู้เสียหายเล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่ของบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งได้ติดต่อมาขอชดใช้ค่าเสียหายเนื่องจากทำเอกสารของลูกความที่จ.สุรินทร์ เสียหาย ก่อนที่จะลงมือเทอึใส่ตัวเอง หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท สุดผิดหวังคำตอบหลังมาขอสเตทเมนต์แต่ธนาคารไม่ให้ พร้อมประกาศว่า จะติดตามในเรื่องนี้อีก 1 สัปดาห์ หากธนาคารยังไม่ติดต่อกลับก็จะฆ่าตัวตายตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุด ทนายนพ ได้ยืนอ่านแถลงการณ์หน้าธนาคาร เล่าว่า โดยมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นบริษัทขนส่งพัสดุ ติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท หลังทำเอกสารชำรุด และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นเพื่อจะคืนเงิน แต่หลังจากดาวน์โหลดแอปฯแล้ว โทรศัพท์ก็มืด ไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงช่องให้สแกนใบหน้าเท่านั้น ก่อนหน้าจอจะดับลงไปนานราว 10 นาที และพบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมดกว่า 1.1 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมายังไม่แน่ใจว่า เป็นความผิดของธนาคาร หรือความผิดของตนเอง หรือความผิดร่วมกัน จึงให้เวลาธนาคารพิจารณาแนวทางช่วยเหลือ
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายนที่ผ่านมาได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจไซเบอร์ อ้างว่า ตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบแล้ว แจ้งว่าเป็นความผิดของธนาคาร ที่ไม่ติดตั้งระบบป้องกันการแฮ็ก จึงแนะนำให้ฟ้องแพ่งธนาคาร แต่ไม่ยืนยันว่าจะได้เงินคืนครบ 100% อาจได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เพราะเงินไหลออกไปต่างประเทศแล้ว จะคาดหวังให้ตำรวจนำเงินทั้งหมดกลับคืนมาให้คงไม่ได้ พร้อมได้ยึดโทรศัพท์ไว้ เพื่อให้กองพิสูจน์หลักฐานกู้หลักฐานใช้ฟ้องแพ่งกับทางธนาคาร
ทำให้ทนายนพ มั่นใจว่า เป็นความผิดของธนาคาร แต่ตอนนี้ไม่มีเงินจะใช้ฟ้องแพ่ง แค่เงินกินข้าวในแต่ละวันก็ยังไม่มี เพราะเงินที่คนใจบุญเคยบริจาคช่วยเหลือมารวม 8,000 บาทหมดแล้ว ส่วนเงินที่ธนาคารเยียวยามาเบื้องต้น 30,000 บาท มองว่า หากรับไว้คงใช้ดำรงชีพได้เพียงไม่กี่วัน จึงตั้งใจจะโอนคืนให้กับธนาคาร
ทั้งนี้ ทนายนพ เรียกร้องให้ผู้จัดการธนาคารออกมารับหนังสือแถลงการณ์ พร้อมต้องให้คำตอบทันที ว่า จะคืนเงินทั้งหมดให้หรือไม่ หากไม่คืน ยืนยันจะจัดการตัวเองที่หน้าธนาคาร เพื่อให้ธนาคารได้รับผลกระทบ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด ตำรวจจึงต้องพยายามเข้ามาเกลี่ยกล่อม ระงับเหตุ และพูดคุยให้ทนายนพใจเย็น และกลับไปรอคำตอบจากทางธนาคารที่บ้าน แต่ทนายนพไม่ยินยอม ตำรวจจึงขอค้นอาวุธ พบเพียงยารักษาโรคเท่านั้น
เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไกล่เกลี่ยนาน ทนายนพจึงยอมกลับบ้าน โดยมีข้อแม้ไม่ให้ตำรวจตามประกบ ก่อนจะฉวยโอกาสคว้าไขควงที่แอบซ่อนไว้ในรองเท้า แทงเข้าที่แขนของตัวเองจนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจจึงเร่งให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาช่วยทำแผลและนำตัวส่งโรงพยาบาล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง