ผ่อนต่อหรือพอแค่นี้ พี่สาวช่วยแม่ผ่อนบ้าน 3 ล้าน ออกคนละครึ่ง แต่ให้โอนเป็นชื่อน้อง
ปัญหาครอบครัววันนี้ พี่สาวตั้งกระทู้ขอคำปรึกษา ช่วยแม่ผ่อนบ้าน 3 ล้าน ออกกันคนละครึ่ง รอน้องเรียนจบมาผ่อนต่อ แฟนพี่กังวลอนาคตจะพผ่อน 2 ที่ไม่ไหว หัวอกพี่คนโตสุดอึดอัดใจเจอแบบนี้ ต้องหาทางออกยังไง โดยเฉพาะบ้านควรเก็บไว้ไหม
เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. 67 สาวรายหนึ่งตั้งกระทู้ปรึกษาปัญหาครอบครัว ในเว็บไซต์พันทิป ประเด็นช่วยปลดภาระหนี้บ้านกว่า 3 ล้านบาท ผ่อนมาได้ 5 ปี ในฐานะพี่คนโตช่วยออกกับแม่คนละครึ่ง แต่ต่อมาแม่อยากให้บ้านถูกยกเป็นชื่อของน้องที่รอเรียนจบแล้วยื่นกู้มาช่วยผ่อนต่อเองอีกทอดในอนาคต
กระทู้ปรึกษาฯ ปัญหาดังกล่าวเริ่มจากฝั่งพี่สาวเจ้าของเรื่อง ระบุถึงปัญหาภาระหนี้บ้านประมาณ 3,000,000 บาท ซึ่งผ่อนไปได้ประมาณ 5 ปีแล้ว เหตุผลที่ซื้อตอนนั้นเพราะครอบครัวอยู่บ้านเช่ามาตลอด พอพี่สาวเรียนจบกู้ได้ แม่จึงใช้เครดิตชื่อยื่นกู้เพื่อให้ทุกคนมีบ้านเป็นของตัวเองเป็นหลักประกันชีวิต ซึ่งอยู่คนละจังหวัดกับที่พักปัจจุบัน และที่น้องๆ เรียน โดยคนเป็นพี่ตกลงช่วยกับแม่ผ่อนคนละครึ่ง โดยตอนนี้น้องอยู่ ม.6 จึงต้องรออีกประมาณ 5ปี ตอนนี้จึงปล่อยเช่าไปก่อน
ระหว่างปล่อยเช่าภาระลดลง แต่พี่สาวยังช่วยส่งที่บ้านเดือนละ 5,000 บาท ซึ่งต่อมาแฟนของพี่สาวก็เริ่มกังวล เพราะก็อยากจะมีบ้านเป้นของตัวเองในอนาคตเช่นกัน และหากจะผ่อนกันก็เกรงว่าฝ่ายของพี่สาวจะผ่อนบ้านทั้ง 2 หลังไม่ไหว ประกอบกับแม่ใกล้เกษียณอีก 2 ปี น้องยังเรียนไม่จบ ถ้ารอน้องจบเพื่อมาผ่อนต่อ คตัวของพี่สาวเองก็เกรงว่าอาจจะต้องได้แต่งงานตอนอายุ 35 ปี จึงได้ตัดสินใจบอกแม่จะขายบ้าน
แต่แม่ไม่อยากให้ขาย อยากให้ยื้อโดยหาคนเช่าระหว่างรอน้องเรียนจบ เพื่อน้องเรียนจบทุกคนจะได้ย้ายเข้าบ้าน ยกเว้นเพี่สาวที่ต้องแต่งออก และคนเป็นแม่อยากให้ยกชื่อบ้านที่เป็นชื่อพี่สาวโอนให้เป็นของน้องไป ส่วนแฟนของพี่สาวอยากให้รีบขายเพื่อจะได้สร้างอนาคตของตัวเอง แล้วให้ที่บ้านอยู่บ้านเช่า รอน้องเรียนจบให้น้องยื่นกู้เอง
โดยหลังจากเล่าที่มาที่ไปของประเด็นปัญหาทั้งหมดแล้ว ฝ่ายพี่สาวยังได้เขียนข้อความอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า
“เราควรตัดสินใจยังไงดีคะ ตอนนี้คนเช่าเราย้ายออก ต้องช่วยกับแม่ส่งค่าบ้านคนละครึ่ง แม่ว่าเราทุกวันว่าเป็นเพราะเรา ทำให้ต้องมาจ่ายเงินเดือนละ 7,000 บาท แล้วก็ไม่ได้เงินที่เราส่งให้ แทนที่คนเช่าจะจ่ายให้ประทังเวลาน้องเรียนจบ ซึ่งเรากลัวถ้าแม่เราเกษียณ แล้วคนเช่าออกกะทันหันแบบตอนนี้ และน้องยังเรียนไม่จบ เราจะต้องจ่ายคนเดียวเดือนละ 15,000++ จนกว่าน้องจะมาช่วยผ่อนได้ เลยต้องตัดสินใจแบบนี้ค่ะ”
“ส่วนพ่อแยกทางกันเลยไม่สามารถช่วยอะไรได้เลยค่ะ รบกวนขอความคิดเห็นเพื่อนๆหน่อยนะคะ เราควรปล่อยเช่าตามที่แม่บอก หรือตัดจบขายดีคะเพื่อตัดปัญหาดังกล่าว แต่ก็กลัวว่าแม่จะเสียใจที่ไม่มีบ้านแบบที่ฝันไว้”
ทั้งนี้ ในส่วนของความเห็นนั้น ก็แบ่งเป็น 2 แบบ ฝ่ายที่ออกมาแนะนำตอนแรกยืนกรานงว่า ให้เก็บบ้านไว้ดีกว่า เพราะเป็นความมั่นคงของชีวิต เพียงแต่เงื่อนไขที่แม่ให้โอนเป็นชื่อน้องนั้นไม่ถูกต้อง และควรหาคนเช่าไปก่อนสักระยะ เพื่อลดภาระค่าผ่อนบ้าน” ส่วนอีกมุมเสนอให้ “ขายบ้าน” แล้วนำเงินส่วนหนึ่งที่ได้ให้แม่ หรือมองหาบ้านมือ 2 ราคาถูก ไม่เกิน 1-2 ล้าน เพื่อที่จะสร้างอนาคตของตัวเองกับแฟนหนุ่ม.
อ่านข่าวเพิ่มเติม