แฟนบอลจุดพลุแฟร์ ตกใส่รถกระบะ วอดเสียหาย ถามใครรับผิดชอบ?
แฟนบอลจุดพลุแฟร์ ในนัดชิงฟุตบอลรีโว่ คัพ ตกใส่รถกระบะ ทำรถยนต์วอดเสียหายทั้งคัน ลูกเจ้าของรถถามใครรับผิดชอบ ต้องใช้รถทำงานทุกวัน
ร.ต.อ.ธนภูวภัสสร์ สีสวย ร้อยเวรสอบสวน สภ.คลองหลวง ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้รถยนต์หลังสนามฟุตบอล ภายในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จึงรีบประสานกำลังลงพื้นที่ตรวจสอบ
จากการตรวจสอบพบว่าที่เกิดเหตุนั้นมีการแข่งขันฟุตบอลรีโว่ คัพ รอบชิงชนะเลิศ ระหว่างทีมเมืองทอง ยูไนเต็ด กับ บีจีปทุม ยูไนเต็ด โดยผลการแข่งขันทีมบีจีปทุม ยูไนเต็ด ชนะ ทีมเมืองทองธานี ยูไนเต็ด 1-0
เจ้าหน้าที่ใช้น้ำและถังเคมีฉีดเข้าดับไฟที่กำลังลุกไหม้รถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ 4 ประตู สีขาว เพื่อไม่ให้ลุกลาม ใช้เวลาประมาณ 10 นาทีไฟจึงดับลง โดยหลังดับไฟได้เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบความเสียหายพบว่าห้องโดยสารเสียหายทั้งหมด และใกล้กันพบแผ่นป้ายพลาสติก ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังช่วยกันดับไฟอยู่ก็มีกองเชียร์ได้จุดพลุแฟร์ใกล้กับสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ซึ่งมีการแข่งขันฟุตบอลของเด็กเยาวชนอยู่ด้วย
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตนเองเห็นกลุ่มคนเสื้อสีแดงจำนวน 5-6 คน เดินมาหลังจากฟุตบอลจบ จากนั้นพวกเขาก็จุดพลุแฟร์ รอบแรกไปตกลงในสนามฟุตบอล และอีกดอกหนึ่ง ตนเองก็รู้ว่าร่วงใส่รถยนต์ จากนั้นพวกเขาก็เดินไปหน้าสนามฟุตบอลไปมีเรื่องกับแฟนบอลอีกรอบหนึ่ง
ต่อมา นายอรุณ อายุ 47 ปี เจ้าของรถยนต์ที่ถูกไฟไหม้ได้เดินมาที่รถ เมื่อเห็นรถของตนเองถูกไฟไหม้ ลูกชายถึงกับร้องไห้ และก็บอกว่าเหตุการณ์นี้ใครจะรับผิดชอบ ซึ่งวันนี้ตนเองพาลูกชายมาแข่งฟุตบอลซึ่งอยู่ทีม MJ ยูไนเต็ด จากพระนครศรีอยุธยา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับฟุตบอลทั้ง 2 ทีมที่แข่งกัน ซึ่งรถยนต์ของตนไม่มีประกัน และต้องไปร้องเรียนที่ไหนหรือสมาคมไหน เพราะตนเองต้องใช้รถทำงานทุกวัน ซึ่งตนเองไม่ได้มีเชียร์ฟุตบอลสองทีมนี้ด้วย ทำไมเจ้าหน้าที่ไม่ได้ตรวจสอบความปลอดภัย แล้วประชาชนอย่างผมต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ตนเห็นกองเชียร์ตีกัน และเห็นเขาจุดพลุแฟร์ด้วย มันไม่สมควรจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ซึ่งอยากฝากทุกคนที่เกี่ยวข้องต้องลงมาแก้ไข และฝากสมาคมฟุตบอลด้วย และฝากถึงมาดามแป้งด้วย ช่วยเข้ามาจัดการเรื่องนี้หน่อย ต้องมีคนออกมารับผิดชอบ เพราะรถคันนี้ตนเองต้องใช้ทำมากิน
ด้าน ร.ต.อ.ธนภูวภัสสร์ สีสวย ร้อยเวรสอบสวนสภ.คลองหลวง หลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว จึงบันทึกภาพไว้เป็นหลักฐาน และได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อที่จะนำคนกระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง