หนุ่มร้องทุกข์ ถูกงูพิษกัด หมอจ่ายแค่ยาพารา สุดท้ายเกือบตายที่บ้าน
รอดตายหวุดหวิด หนุ่มถูกงูกัดเข้ารักษาที่โรงพยาบาลอำเภอ หมอบอกงูไม่มีพิษ ให้ยาพารากลับไปกินที่บ้าน กลับไปหาข้อมูล สรุปงูมีพิษ รีบเข้ารักษาที่โรงพยาบาลใหม่ สุดท้ายพบพิษงูทำลายระบบเลือด
เมื่อวันที่ 10 มิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เล่าเหตุการณ์ หลังถูกงูกัดแล้วไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลประจำอำเภอหนองบัวระเหว จังหวัดชัยภูมิ แต่หมอรักษาอาการเพียงเบื้องต้นเท่านั้น เมื่อทำแผลเสร็จจึงปล่อยชายหนุ่มกลับบ้าน ทำให้ตนรู้สึกมึนงงกับเหตุการณ์ดังกล่าว เพราะรู้สึกว่าการถูกงูกัดนั้นควรจะได้รับการรักษาที่ดีกว่านี้หรือไม่
โดยเจ้าของโพสต์ต้องการคำชี้แจงจากโรงพยาบาลว่า ทำไมไม่มีวิธีรักษาแผลที่ดีกว่านี้ เมื่อสอบถามแพทย์ว่างูตัวที่กัดคือสายพันธ์อะไร มีพิษหรือไม่ ก็ไม่สามารถให้คำตอบกลับมาได้ ชายหนุ่มจึงหันไปถามกับทางพยาบาลแทน โดยเธอยืนยันว่าเป็นงูที่ไม่มีพิษ หมอจึงจ่ายยาพาราและยาฆ่าเชื้อให้มารักษาตัวที่บ้าน
ต่อมาเวลาประมาณ 02.30 น. ชายคนดังกล่าวยังคงรู้สึกกังวลเกี่ยวกับแผลที่ถูกงูกัด กลัวว่าพิษงูอาจทำให้เกิดอันตรายได้หากปล่อยไว้นานกว่านี้ จึงค้นหาว่างูที่กัดตนนั้นมีพิษร้ายแรงหรือไม่ ซึ่งต้องตกใจเมื่อพบว่างูตัวดังกล่าว มีพิษทำลายทําลายเลือด โดยตรง
เมื่อทราบดังนั้น จึงตัดสินใจใช้เชือกรัดบริเวณเหนือแผลที่ถูกงูกัด ขับรถยนต์ออกมาท่ามกลางความมืดเพียงลำพัง เพื่อเข้ารักษาตัวอีกครั้งที่โรงพยาบาลประจำจังหวัดชัยภูมิ ชายหนุ่มเปิดเผยว่า ตนเองกลัวว่าถ้าพิษงูมันมันออกฤทธิ์ ขณะตนกำลังขับรถอยู่ ก็คงจะตายไปเสียแล้ว
ด้าน แพทย์โรงพยาบาลจังหวัดชัยภูมิ รีบทำการรักษาโดยทันที และกล่าวว่าหากมาช้ากว่านี้ อาจต้องตัดขาได้ เนื่องจากพิษของงูกำลังทำลายระบบเลือด ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายกับชีวิตได้
ทั้งนี้ ชายหนุ่มรู้สึกโชคดีที่รอดชีวิตมาได้อย่างหวุดหวิด และอยากให้เรื่องราวของเขาเป็นอุทาหรณ์แก่ทุกคน รวมถึงเป็นเครื่องเตือนใจให้เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลในอำเภอให้ความสำคัญกับการรักษาผู้ป่วยให้ดีกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ถูกสัตว์มีพิษกัด
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง