ไลฟ์โค้ชหนุ่ม ยกเคส “มีอา คาลิฟา” สะท้อนด้านมืด 4 เบื้องลึกอุตสาหกรรมสยิว
ไลฟ์โค้ชมะกัน เผยกรณีศึกษา มีอา คาลิฟา ชีวิตอดีตดาวโป๊เบอร์ 1 กับเบื้องลึก 4 ข้อ สะท้อนด้านมืดวงการหนังผู้ใหญ่ แฝงอันตราย ลดทอนคุณค่าทางเพศมากกว่าที่คิด
จากกรณีที่ มีอา คาลิฟา (Mia Khalifa) อดีตดาราหนังโป๊ชื่อดัง เคยเปิดเผยเรื่องราวชีวิตอีกมุมในอุตสาหกรรมบันเทิงฉบับผู้ใหญ่ โดยตลอดระยะเวลาที่มีสถานะเป็นนักแสดงหนังโป๊ อันดับ 1 จาก ยอดวิว 3.7 พันล้านครั้ง เธอมีผลงานแค่ 12 เรื่อง และทำรายได้จากการถ่ายคลิปสยิวทั้งหลายแหล่นั้นเพียง 12,000 ดอลลาร์ คิดเป็นเงินไทยตกราว 4 แสนบาท
ต่อมา บัญชีเอ็กซ์ (X.) @TeriqPhillips ซึ่งเป็นไลฟ์โค้ชอิสระ ได้ออกมาวิเคราะห์หลังจากได้ทำการศึกษาเรื่องราวของอดีตดาวโป๊ตัวแม่ ที่แม้จะประกาศอำลาวงการไปแล้วเกือบ 10 ปี แต่ยังคงถูกเอาชื่อไปเสิร์ชหาบนอินเตอร์เนทไม่ลดละ ซึ่งงานนี้ก็ได้เปิดมุมมองอีกด้านที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงเลยทีเดียว
ชำแหละ 4 เบื้องหลังมืด วงการหนังโป๊ จากการถอดบทเรียนชีวิต มีอา คาลิฟา
1. วงการที่เต็มไปด้วยการล่วงละเมิด
- วงการหนังผู้ใหญ่ มีชื่อเสียในเรื่องการแสวงหาผลประโยชน์จากเนื้อหาที่ไม่ยินยอมและการล่วงละเมิด หากคุณเลิกดูสื่อลามก คุณก็จะหยุดสนับสนุนวงการที่เต็มไปด้วยการล่วงละเมิดนี้
2. การลดทอนคุณค่าทางเพศ
- มีอาบอกว่าตัวเองตกเป็นเหยื่อของการลดทอนคุณค่าทางเพศมาหลายปี การลดทอนคุณค่าทางเพศ คือ การมองคนเป็นเพียงวัตถุทางเพศ แทนที่จะมองเห็นผู้หญิงที่สวยงาม มีบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์ แต่กลับมองเห็นแค่เรือนร่างของเธอเท่านั้น
3. ความรุนแรงทางเพศ
- สื่อลามกมักนำเสนอภาพผู้หญิงเป็นเพียงวัตถุทางเพศ หรือของเล่นทางเพศ ซึ่งอาจส่งเสริมให้เกิดพฤติกรรมการล่วงละเมิดทางเพศได้ นอกจากนี้เนื้อหาส่วนใหญ่ยังมีภาพความรุนแรง หรือการก้าวร้าว ซึ่งอาจทำให้คนดูเข้าใจผิดว่า เป็นเรื่องปกติ หรือเป็นเรื่องที่น่าพอใจ จนนำไปสู่การเลียนแบบพฤติกรรมที่เห็น แทนที่จะเข้าใจและเห็นคุณค่าของเรื่องเพศที่แท้จริง
4. ทำลายชีวิตคนนับพันล้าน
- หนังโป๊ที่มีเนื้อหาสุดโต่ง รุนแรง หรือลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ มักเป็นการแสวงหาผลประโยชน์จากกลุ่มคนที่อ่อนแอ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาด (การค้ามนุษย์) ในขณะที่นักแสดงบางคนที่เข้าสู่วงการ อาจไม่สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้อีก และยังมีคนอีกนับพันล้านคนที่เสพติดการดูสื่อลามก
ทั้งนี้ มีอา คาลิฟา เคยเปิดใจในรายการ “Hard Talk” ของ BBC ถึงเบื้องหลังการทำงานของตัวเองอย่างเจาะลึก โดยเธอบอกว่าแม้จะออกจากวงการมาแล้วกว่า 3 ปี นับตั้งแต่ประกาศรีไทร์อยางเป้นทางการในปี 2015 แต่มีอาก็ยังรู้สึกว่าตัวเองไม่มีชีวิตส่วนตัว และรุนแรงถึงขั้นเป็น “โรค PTSD” โรคเกี่ยวกับความผิดปกติที่เกิดหลังความเครียดที่สะเทือนใจ เป็นภาวะความผิดปกติทางอารมณ์ที่เกิดขึ้นภายหลังพบเหตุการณ์ความรุนแรง
ขอบคุณคลิป : BBC News
“ฉันรู้สึกเหมือนผู้คนมองทะลุเสื้อผ้าของฉันได้ มันทำให้ฉันรู้สึกอับอายและรู้สึกว่าฉันสูญเสียสิทธิ์ในความเป็นส่วนตัวไปแล้ว เพราะแค่เสิร์ชชื่อฉันใน Google ก็เจอทุกอย่าง”
มีอายังเปิดเผยว่า ครอบครัวของเธอไม่รู้เรื่องที่เธอทำงานในวงการนี้มาก่อน และตัดขาดเธอเมื่อรู้ความจริง “ฉันรู้สึกโดดเดี่ยวจากทั้งโลก ครอบครัว และคนรอบข้าง โดยเฉพาะหลังจากที่ฉันออกจากวงการแล้ว ฉันเพิ่งตระหนักได้ว่าบางความผิดพลาดไม่สามารถให้อภัยได้ แต่เวลาก็เยียวยาทุกสิ่ง และตอนนี้ทุกอย่างกำลังดีขึ้น”
นับตั้งแต่ร้างราจากวงการ นางแบบสาวลูกครึ่งอเมริกัน-เลบานอน ก็ได้ลิ้มลองการทำงานในหลาย ๆ บทบาท ไล่ตั้งแต่ ผู้ช่วยทนายความ , พนักงานบัญชี , นักวิเคราะห์กีฬา , ไลฟ์โค้ชด้านความสัมพันธ์ ตลอดจนมีความสัมพันธ์ถึงขั้นแต่งงาน ที่แม้ต่อมาจะต้องเลิกลาไป แต่ทั้งหมดก็นับเป็นประสบการณ์และสีสันใหม่ ๆ ของชีวิต ที่เธอไม่เคยได้สัมผัสตลอดช่วงที่ต้องทนฝืนมีความสุขกับตำแหน่งราชินีหนังโป๊เบอร์ 1 ประจำวงการสยิวนั่นเอง.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- หนุ่มติดหนังโป๊ 7 ปี ทุกคืนต้องดู จนชีวิตพัง เล่าทุกอย่างเปลี่ยน ตอนข่มใจ 1059 วัน
- เหี้ยม เด็ก 11 ขวบ ติดหนังโป๊ ใช้หินทุบเด็กจนตาย หลังปฏิเสธทำตามคลิปสยิว
- ชนเผ่าแอมะซอน ติดมือถืองอมแงม หลังอินเตอร์เน็ตเข้าถึง ดูคลิปโป๊ จนลืมออกป่าล่าสัตว์