ใครไม่โดนไม่รู้ สองพี่น้องกำแพงชาวเพชร หอบหลักฐานน้องถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกมีเเอี่ยวคดีฟอกเงินจนสูญ 5 แสน พี่สาวกู้เงิน 1 ล้านหวังช่วย ก่อนเป็นเหยื่อซ้ำ ูกหลอกโอน 21 ครั้ง เบ็ดเสร็จเสียหายหว่า 7.3 ล้านบาท
เหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ที่ดำเนินไปเกือบจะพร้อม ๆ กัน โดยมีบทสรุปคือ ผู้เสียหายสองพี่น้อง ชาว จ. กำแพงเพชร ซึ่งตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพชนิดหลอกซ้ำหลอกซ้อนจนเป็นคดี “หนีเสือปะจระเข้ของแท้” โดยเหตุการณ์ถูกหลอกโอนเงินอ้างอิงข้อมูลจากวันใหม่ ไทยพีบีเอส ระบุ เริ่มจากน้องสาวอายุ 34 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ติดต่อเข้ามาอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่เครือข่ายมือถือค่ายหนึ่ง แจ้งกับเหยื่อว่ามีคนปแอบอ้างนำบัตรประชาชนไปเปิดเบอร์โทรศัพท์แล้วทำเรื่องเสียหาย
มิจฉาชีพออกอุบายหลอกน้องสาวอีกว่าให้ไปแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่น เมื่อผู้เสียหายบอกว่าไม่สะดวกเดินทางไป มิจฉาชีพจึงทำทีเป็นโอนสายไปให้อีกคนที่ปลายสายอ้างว่าป็นตำรวจ สภ.เมืองขอนแก่น ส่งไลน์มาให้แอด มีการขอเลขบัตรประชาชนเพื่อไปเช็กประวัติ ก่อนจะหลอกผู้เสียหายมีส่วนพัวพันในคดีเกี่ยวกับการฟอกเงิน และมีการส่งบัญชีธนาคารที่มีชื่อของเหยื่อพร้อมกับแนบหมายศาลที่ปลอมขึ้นมาให้ดูจนหลงเชื่อสนิทใจ สุดท้ายจึงโอนเงินไปให้ประมาณ 500,000 บาท กระทั่งทราบว่าถูกหลอกจึงเข้าแจ้งความ
แต่ต่อมาหลังจากพี่สาววัย 35 ปี ทราบว่าน้องสาวของตัวเองถูกหลอก จึงตัดสินใจโหลดแอปพลิเคชั่นเงินกู้ที่อ้างว่าเป็นของธนาคารชื่อดัง โดยพี่สาวได้ขอกู้เงินจำนวน 1 ล้านบาท เพื่อหวังนำไปช่วยน้อง จากนั้นมีคนติดต่อมาว่า “วงเงินอนุมัติเรียบร้อย” ให้กดเข้าลิงก์เพื่อนำเงินออกมา
แต่ปัญหาก็มาเกิดขึ้นเมื่อเงินเจ้ากรรมไม่ออกมาตามที่คิดไว้ แถมยังไปเข้ากลอุบายที่ต่อมามิจฉาชีพแกล้งบอกว่าให้พี่สาวตรวจสอบเลขบัญชีว่ามีการพิมพ์ผิดไปหรือไม่ ซึ่งเลขบัญชีก็ผิดจริงตามที่มีการกล่าวอ้าง ทำให้คนร้ายจึงแจ้งกับเหยื่อว่าให้โอนเงินมาปลดล็อก
เบ็ดเสร็จผู้เสียหายที่เป็นพี่สาวโอนไปทั้งหมด 21 ครั้ง เสียหายไปทั้งหมดกว่า 7.3 ล้านบาท โดยเหยื่อมารู้ตัวหลังจากติดต่อไปที่ธนาคารแล้วได้คำตอบกลับมาว่าทางสาถบันการเงินนั้นไม่มีนโยบายหรือข้อเสนอดังกล่าว
ทั้งนี้ สองพี่น้องที่ตกเป็นเหยื่อสุดสะเทือนใจดังกล่าว ได้ฝากเตือนภัยไปยังสังคมซึ่งไม่อยากให้ใครต้องมาตกเป็นเหยื่อแบบนี้ เนื่องจากถึงตอนนี้ แอปฯ ของมิจฉาชีพยังเปิดให้ดาวโหลดได้อยู่ และยังสามารถพูดคุยติดต่ได้ปกติ
ขณะที่วิธีการติดตามเงินของตำรวจ ทาง พ.ต.ท. สุวิช พิศอ่อน สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ระบุ ต้องไปไล่ตรวจสอบก่อนในอันดับแรกว่าจุดเริ่มและไปสิ้นสุดของเส้นเงินนั้นไปจบลงที่บัญชีไหน เส้นทางทั้งหมดของเงินผ่านใครบ้างแล้วก็ออกหมายเชิญหรือเรียกบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ข้อมูล
สารวัตรสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร ยังยืนยันได้พยายามดำเนินการตามขั้นตอนอย่างเต็มที่แล้ว แต่คดีนี้อาจไม่เสร็จสิ้นใน 1-2 วัน และไม่ใช่เรื่องง่าย โดยตอนนี้ได้แบ่งหน้าที่ติดตามจับกุมคนร้ายมารับโทษ ซึ่งหากผู้เสียหายมีข้อมูลเพิ่มเติมก็สามารถแจ้งเข้ามาที่ ตร. หรือโรงพักใกล้บ้านได้เลย.
อ่านข่าวเพิ่มเติม
- กดเลขนี้ บล็อกเบอร์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตำรวจแนะเอง ใช้ได้จริง
- แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกเมียรองนายกอบจ. ปทุมธานี เครียดจนลาโลก
- นักการเมืองดังเมืองคอน เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา หลอกเงินคนไทย
