หลังจากที่แฟน ๆ ต้องรอกันมานาน ในที่สุดซีรีส์ภาคแยกของ ‘Game of Thrones’ อย่าง ‘House of the Dragon ซีซั่น 2‘ ก็กลับมาอีกครั้ง ฉายทาง HBO และสตรีมบน Max เริ่มวันที่ 16 มิถุนายนนี้
เรื่องราวในซีซั่นนี้จะดำเนินต่อจากตอนจบของซีซั่นแรก ว่าด้วยเกมการมองของตระกูลทาเกเรียน ประมาณ 200 ปีก่อนเหตุการณ์ใน ‘Game of Thrones’ โดย เรเนียรา ทาร์แกเรียน (เอ็มม่า ดาร์ซี) ผู้ถูกแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทโดยกษัตริย์ วิเซอริส (แพดดี้ คอนซิดีน) ผู้ล่วงลับ กำลังเผชิญหน้ากับ เอกอน (ทอม กลินน์-คาร์นีย์) น้องชายต่างแม่ของเธอ ซึ่งอ้างสิทธิ์ในบัลลังก์เหล็กเช่นกัน
สงครามกลางเมืองระหว่างพี่น้องกำลังจะปะทุขึ้น โดยมี เดมอน (แมตต์ สมิธ) ลุงจอมห่ามของ เรเนียรา และอลิเซนต์ (โอลิเวีย คุก) แม่ของ เอกอน เป็นตัวละครสำคัญในแต่ละฝ่าย
สำนักข่าวต่างประเทศ ระบุว่าซีซั่นนี้มาพร้อมความยิ่งใหญ่และความโหดเหี้ยมกว่าเดิม ทั้งมังกร การต่อสู้ การฆาตกรรม การหักหลัง ฉากเปลือย และฉากเซ็กส์
ตัวละครที่โดดเด่นในซีซั่นนี้คือ เอกอน และ เอดมอน พี่น้องฝั่งวายร้าย ที่ดูเหมือนนักแสดงจะสนุกกับการแสดงบทตัวละครร้าย ๆ จนทำให้ฉากของพวกเขาดูมีพลังอย่างมาก คอร์ลีส เวลายอน (สตีฟ โทสเซนต์) และ เรนิส (อีฟ เบสต์) ภรรยาของเขา ก็เป็นอีกสองตัวละครที่น่าจับตามอง
นอกจากนี้ยังมีตัวละครใหม่ ๆ เข้ามาเพิ่มอีกมากมาย บางตัวละครก็น่าสนใจ เช่น อดัมแห่งฮัลล์ (คลินตัน ลิเบอร์ตี้) และ เครแกน สตาร์ค (ทอม เทย์เลอร์) ซึ่งทำให้แฟน ๆ ‘GoT’ คิดถึง จอน สโนว์ เพราะสำเนียงของเขา
อย่างไรก็ตาม ซีซั่น 2 นี้ก็มีจุดอ่อนอยู่บ้าง อย่างแรกคือ ความเศร้าโศกเป็นอารมณ์ที่เข้าถึงได้ง่ายแล้ว แต่กลับไม่ค่อยน่าสนใจนัก แม้ เอ็มม่า ดาร์ซี จะแสดงได้ดี แต่บทของ เรเนียรา กลับไม่สามารถดึงอารมณ์ของผู้ชมได้เท่าที่ควร นี่ถือเป็นจุดที่ทำให้ซีรีส์น่าผิดหวัง
อีกจุดหนึ่งคือ แม้ แมตต์ สมิธจะแสดงได้ดี แต่บทของ เดม่อน กลับไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ เป็นเรื่องที่น่าแปลกใจมาก เพราะ สมิธ เป็นนักแสดงที่โด่งดังที่สุดในเรื่อง การที่บทของเขาไม่ส่งเสริมศักยภาพของนักแสดงถือเป็นการเสียของอย่างมาก
นอกจากนี้ ซีรีส์ยังคงได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนักแสดงและการข้ามช่วงเวลาในซีซั่นแรก ทำให้เราไม่ค่อยผูกพันกับตัวละครหลักเท่าไหร่นัก ฉากตายหรือฆาตกรรมที่เกิดขึ้นจึงไม่ค่อยส่งผลต่ออารมณ์เท่ากับใน ‘GoT’ และบางฉากสำคัญก็ดูไม่สมเหตุสมผล
ถึงแม้จะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่ซีซั่นนี้ก็ยังคงเต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่น่าตื่นเต้น ชวนให้ลุ้นระทึก แม้จะไม่ถึงขั้นบีบหัวใจเหมือนฉาก Red Wedding ใน ‘GoT’ แต่ก็ยังคงเป็นซีรีส์ที่น่าติดตามและเป็นที่พูดถึงอย่างแน่นอน
แม้ว่าไทม์ไลน์ของซีซั่น 2 จะกระชับกว่าซีซั่นแรก แต่การดำเนินเรื่องยังคงรู้สึกไม่ค่อยสมูท โดยบางช่วงก็ดูรวบรัดเกินไป แต่ในขณะเดียวกันก็ทำให้ซีรีส์ดูน่าตื่นเต้นเร้าใจมากขึ้น
สรุปแล้ว ‘House of the Dragon’ ซีซั่น 2 อาจจะมีข้อผิดพลาดอยู่บ้าง แต่มันก็ยังคงเป็นซีรีส์ที่สนุก ตื่นเต้น และเป็นที่พูดถึงอย่างแน่นอน
คะแนนนักวิจารณ์จาก Rotten tomatoes ออกมาสูงมากถึง 91% รีวิวบางส่วนกล่าวไว้ว่า ซีซั่นสองเป็นละครชีวิตสุดเข้มข้นนำไปสู่สงครามกลางเมืองอันดุเดือด แม้ว่าจะยังไม่ถึงขั้นระเบิดศึกใหญ่ที่แฟน ๆ รอคอย แต่การแสดงที่ยอดเยี่ยมและความตึงเครียดที่น่าติดตาม ทำให้ซีซั่นนี้ร้อนแรงกว่าซีซั่นก่อนอย่างเห็นได้ชัด
ซีซั่น 2 เปิดตัวด้วยตอนแรกที่ดูยาก (ในแง่ที่ดี) และไม่เคยผ่อนคันเร่งเลย เต็มไปด้วยการทรยศ ความบาดหมางในครอบครัว ความรัก และตัณหา เหมือนกับที่ Game of Thrones ควรจะเป็น
ตอนใหม่ของ “House of the Dragon” นั้นยอดเยี่ยม ผสมผสานลงตัวระหว่างการวางแผนอันแยบยล ฉากแอคชั่นยิ่งใหญ่ และพฤติกรรมอันน่าขนลุก ซึ่งทำให้รู้สึกเหมือนละครน้ำเน่าและเรื่องราวประวัติศาสตร์ไปพร้อมกัน
แม้ว่าจะต้องใช้เวลาสองสามตอนกว่าที่ House of the Dragon จะค่อย ๆ เพิ่มความเข้มข้นไปสู่ฉากอันยิ่งใหญ่และรุนแรง ซึ่งเป็นสิ่งที่ซีรีส์นี้ทำได้ดีกว่ารายการทีวีอื่น ๆ แต่ก็มีเหตุการณ์ที่น่าสนใจมากพอที่จะตอบสนองความกระหายเลือดของผู้ชม
ด้วยความซับซ้อนและภาพอันน่าตื่นตาตื่นใจ House of the Dragon อาจเป็นละครแฟนตาซีที่ดีที่สุดของทศวรรษ และสานต่อตำนานของแฟรนไชส์นี้ได้อย่างยอดเยี่ยม
อ่านข่าวที่เกียวข้อง