“ยอดไอคิว” มั่นใจแม้ต้องเปลี่ยนคู่ชก ยันไม่ส่งผลต่อฟอร์มการชก พร้อมลุยแหลกอัดซ้ำ “มาฟลุด” ในฐานะคู่เอกภาคอินเตอร์ ศึก ONE ลุมพินี 66
“ยอดไอคิว อ.พิมลศรี” มวยซ้ายเฉียบคม วัย 22 ปี จากบุรีรัมย์ ได้ฤกษ์คืนสังเวียนอีกครั้งเพื่อเปิดศึกภาคสองกับ “มาฟลุด ติฟิเยฟ” มวยหมัดดุ วัย 33 ปี จากอุซเบกิสถาน ที่หวังถอนแค้นนักชกหน้าหล่อชาวไทย โดยจะวัดแกร่งกันในกติกามวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135 – 145 ป.) ในฐานะคู่เอกภาคอินเตอร์ของศึก ONE ลุมพินี 66 วันศุกร์ที่ 7 มิ.ย.นี้ ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เริ่มคู่แรกเวลา 19.30 น.
สำหรับ “ยอดไอคิว” กำลังอยู่ในช่วงฟอร์มเข้าฝัก หลังไฟต์ล่าสุดในศึก ONE ลุมพินี 49 เมื่อ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ทุบชนะแต้มคู่ชกไอดอลอย่าง “ราฟฟี่ โบฮิค” จากฝรั่งเศสมาได้ และเพิ่มสถิติชนะของตัวเองเป็น 4 จาก 5 ไฟต์ อยู่ในเวลานี้
เดิมที “ยอดไอคิว” มีคิวพบกับ “อิลยาส มูซาเอฟ” จากรัสเซีย ในสัปดาห์ก่อนแต่ต้องยกเลิกไป เนื่องจากอีกฝ่ายมีอาการบาดเจ็บ ก่อนได้หวนชกทันควันและโคจรมาเจอคู่ปรับเก่า “มาฟลุด” หลังเคยเจอกันครั้งแรกในศึก ONE ลุมพินี 20 เมื่อกลางปีที่ผ่านมา ซึ่ง “ยอดไอคิว” ชนะคะแนนมาได้ กลับมารอบนี้เจ้าตัวจึงหวังย้ำชัยให้เด็ดขาดอีกครั้ง
“ยอดไอคิว” ย้ำว่าการเปลี่ยนคู่ชกกะทันหันจากต้องเจอกับ “อิลยาส” มาเป็น “มาฟลุด” ไม่ส่งผลกระทบอะไรมาก เพราะตนได้เตรียมฟิตซ้อมร่างกายมาแล้วอย่างเต็มที่ โดยไม่ว่าต้องสู้กับใครตัวเองก็พร้อมมุ่งมั่นเก็บชัยชนะต่อเนื่องให้ได้เหมือนเดิม
“ตอนนี้ผมสามารถเจอกับคู่ชกคนไหนก็ได้ ผมมองว่า มาฟลุด ไม่ได้มีความน่ากลัวเท่ากับ อิลยาส ด้วยซ้ำ หลังทราบว่าต้องได้เปลี่ยนมาเจอกับ มาฟลุด ผมได้ย้อนไปดูเทปที่ตัวเองเคยชกกับเขา รวมถึงไฟต์ล่าสุดของเขาที่แพ้ให้กับ เฟอร์รารี (แฟร์เท็กซ์) พยายามศึกษาว่าสไตล์การชกของเขาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน แต่ดูแล้วถึงตอนนี้ เขายังคงเป็นมวยที่เน้นใช้หมัดเหมือนเดิม ส่วนอาวุธอื่น ๆ ก็ไม่ได้มีอะไรพิเศษเพิ่มขึ้นมา ที่สำคัญคือดูเหมือนจะแพ้ทางมวยฝีมือด้วยครับ”
อีกหนึ่งความท้าทายในไฟต์นี้ของ “ยอดไอคิว” คืออยากสยบคู่ชกที่แข็งแกร่งอย่าง “มาฟลุด” ลงแบบไม่ครบยกให้ได้ โดยหวังนำประสบการณ์คว้าชัยชนะในภาคแรกที่เคยเจอกัน มาปรับใช้เล่นงานให้อีกฝ่ายต้องน้ำตาตกในซ้ำสอง
“ผมมองว่า มาฟลุด เป็นคู่ชกที่เอาชนะน็อกได้ยากมาก ตั้งแต่ดูไฟต์ที่เขาแพ้มา 3 ครั้ง มีแต่แพ้แบบคะแนนทั้งหมด ผมตั้งใจอยากย้ำแค้นเขาให้ได้ และหวังลึก ๆ ว่าอยากจะเอาชนะน็อกคู่ชกและคว้าโบนัสให้ได้ในทุกครั้งที่ขึ้นไปสู้บนเวทีด้วย”
“ไฟต์นี้ผมมั่นใจมากว่าจะเก็บชัยชนะได้ แต่ยังไงก็จะไม่ประมาท มาฟลุด แน่นอน เพราะใช้นวมเล็ก ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้หมด ไฟต์นี้ ผมเต็มที่เหมือนเดิมแน่นอน แม้ว่าจะต้องเปลี่ยนคู่ชกกะทันหัน แต่ก็เป็นคู่ชกคนเก่าที่เคยเจอกันมาก่อนแล้ว ผมพร้อมแล้วที่จะย้ำชัยเขาให้ได้ครับ”
แฟนกีฬาชาวไทยสามารถจองบัตรเข้าชมในสนามผ่านทาง THAI TICKET MAJOR คู่แรกเริ่มเวลา 19.30 น. รับชมการถ่ายทอดสดทาง Watch.ONEFC.com (บางประเทศ), Facebook & YouTube ONE (บางประเทศ) และทางช่อง 7HD กด 35 (ภาษาไทย) เริ่ม 20.30 น.