ภูเก็ตประสบความสำเร็จกระตุ้นตลาดท่องเที่ยวกลุ่มเอเชีย ในงาน “ITB Asia 2018” ที่สิงคโปร์
ภูเก็ตประสบความสำเร็จ กระตุ้นตลาดท่องเที่ยวรับไฮซีซั่น ในงาน “ITB Asia 2018” ที่สิงคโปร์ มั่นใจผลจากการเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว จะทำให้มีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตมากยิ่งขึ้น
สมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต โดยการสนับสนุนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต นำตัวแทนกลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและการท่องเที่ยวกว่า 20 ราย เข้าร่วมงานแสดงสินค้าเพื่อการท่องเที่ยวชั้นนำของเอเชีย “ITB Asia 2018” ระหว่างวันที่ 17-19 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ณ Expro & Convention Centre Marina Bay Sands ประเทศสิงคโปร์
สำหรับงาน ITB Asia 2018 ปีนี้ ครบรอบเป็นปีที่ 11 แล้ว มีตัวเลขผู้เข้าร่วมงานซื้อขายและแสดงสินค้ากว่า 1,000 ราย ซึ่งเพิ่มขึ้นมากกว่า 20 % มีผู้ประกอบการกลุ่มธุรกิจโรงแรม มีการเจริญเติบโตของธุรกิจหลังจากเข้าร่วมงานมากกว่า 125% ผู้ประกอบการธุรกิจไมซ์เพิ่มขึ้น 45% และยังคงได้รับความร่วมมือจากกลุ่มผู้ค้าและผู้ซื้อจำนวนมาก โดยภายในงานมีการจัดกลุ่มพูดคุยแลกเปลี่ยนลูกค้า มีการจัดนิทรรศการ เทรนด์การท่องเที่ยวกลุ่มใหม่อย่างต่อเนื่อง
นางรัตนดา ชูบาล อุปนายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า สำหรับงาน ITB Asia 2018 ในปีนี้ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต ได้นำสมาชิกผู้ประกอบการโรงแรมและบริการด้านการท่องเที่ยวกว่า 20 ราย มานำเสนอบริการด้านการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ๆ ให้กับกลุ่มผู้ซื้อจากทั่วโลกได้รับทราบมากขึ้น ตลอดทั้งสามวันของการร่วมงาน ITB Asia 2018 ที่ประเทศสิงคโปร์ เป็นไปอย่างคึกคัก มีกลุ่มผู้ซื้อเข้ามาเจรจากับกลุ่มผู้ประกอบการที่มาร่วมออกบูทในครั้งนี้อย่างต่อเนื่อง
สมาคมฯ คาดหวังว่า จากการเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในครั้งนี้ จะทำให้มีนักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดภูเก็ตมากยิ่งขึ้น ซึ่งในช่วงเดือนพฤศจิกายนนี้ ก็เป็นช่วงไฮซีซั่น โดยปกติจะมีกลุ่มนักท่องเที่ยวจากยุโรปและเอเชีย ซึ่งคาดหวังว่าจะมีเพิ่มมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ด้วยจำนวนของเที่ยวบินที่มีมากขึ้น และโรงแรมที่มีการนำเสนอการบริการมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งก็เชื่อว่าจะสร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยวในช่วงไฮซีซั่นเป็นอย่างมาก
ด้านนายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคอาเซียน เอเชียใต้ และแปซิฟิกใต้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กล่าวว่าสำหรับงาน ITB Asia 2018 ในครั้งนี้ เป็นงานที่รวบรวมผู้ประกอบการจากทั่วโลกได้มาพบกันเพื่อสร้างช่องทางการตลาด เกิดการซื้อขายธุรกิจทางด้านการท่องเที่ยวซึ่งกันและกัน ในส่วนของประเทศไทยมีบูทของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย พัทยา และจังหวัดภูเก็ต ได้นำผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวรวมกว่า 100 ราย มาร่วมงาน ซึ่งผลการเจรจาด้านธุรกิจมีความคึกคักและมีแนวโน้มที่ดีขึ้น เบื้องต้นในส่วนของประเทศไทยจากการเจรจาด้านธุรกิจ ณ ขณะนี้ไม่น้อยกว่า 1,200 นัดหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีที่จะทำให้เกิดการเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยมากขึ้น
นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการทำการตลาดที่ดูแลอยู่ในขณะนี้ประกอบด้วย ประเทศโซนอาเซียน เอเชียใต้ที่ครอบคลุมถึงปากีสถานอินเดีย และแปซิฟิกใต้(นิวซีแลนด์และออสเตรเลีย)โดยภาพรวมมีนักท่องเที่ยวเข้ามาต่อปีมากกว่า 9.5 ล้านคน ซึ่งถือได้ว่าเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่มีความสำคัญต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของไทยอย่างมาก ในส่วนของการดำเนินงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย กับประเทศเพื่อนบ้านนอกเหนือจากการเชิญชวนมาท่องเที่ยวในประเทศแล้วยังมีการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันในสองมิติ ไม่ว่าจะเป็นมิติด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและมิติด้านการตลาด ซึ่งจะเป็นผลดีต่อธุรกิจการท่องเที่ยวโดยรวม ในขณะเดียวกันปีหน้าจะมีการลุยตลาดกลุ่มนักท่องเที่ยวอินเดียและเวียดนามให้มากขึ้น ซึ่งถือได้ว่าเป็นตลาดที่น่าสนใจและมาชดเชยกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ยังซบเซาอยู่ในขณะนี้
ทางด้าน นายภูริต มาศวงศ์ศา ผู้จัดการโรงแรมป่าตองรีสอร์ท กล่าวว่า ในช่วงตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมาในการเดินทางมาร่วมงาน ITB Asia 2018 มีความก้าวหน้าที่ดีขึ้นในทุกๆ ปี เนื่องด้วยกลุ่มผู้จัดงานเองก็พยายามเลือกหากลุ่มตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นในแต่ละปีร่วมกับกลุ่มตลาดที่เป็นพื้นฐานอยู่แล้วอีกส่วนหนึ่ง ดังนั้นจำนวนผู้เข้าร่วมงานก็จะเพิ่มขึ้นทุกปี ในขณะเดียวกันทางด้านผู้มาเข้าร่วมงานก็ได้รับความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น รวมถึงการมีตลาดใหม่เพิ่มขึ้นเช่นกัน ดังนั้นจึงเป็นเป้าประสงค์ของทั้งสองฝ่าย ทั้งผู้จัดงานและผู้ร่วมงานได้รับผลประกอบการที่ดีนั่นเอง
“หากพูดถึงกลุ่มตลาดในปัจจุบันของจังหวัดภูเก็ต ก็มีกลุ่มตลาดนักท่องเที่ยวที่หลากหลายอยู่แล้ว เพียงแต่ในกลุ่มตลาดเดิมที่มีอยู่เราต้องสร้างความสนใจหรือแรงจูงใจให้กลุ่มตลาดเหล่านี้มีเพิ่มมากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ตลาดอินเดีย ซึ่งเป็นกลุ่มตลาดที่มีอยู่ในภูเก็ตมานานแล้ว แต่มีการเพิ่มของจำนวนนักท่องเที่ยวที่ค่อนข้างช้า เพราะไม่ได้มองว่าเป็นกลุ่มตลาดหลัก แต่ในปัจจุบันตลาดอินเดียเป็นกลุ่มตลาดที่มีศักยภาพ สามารถพัฒนาให้เป็นกลุ่มตลาดหลักได้ จากตัวเลขระดับหลักหมื่น ปัจจุบันขึ้นมาเป็นหลักล้าน เพราะฉะนั้นก็จะส่งผลต่อความสามารถในการใช้จ่ายของกลุ่มตลาดอินเดียสูงขึ้นเช่นกัน” นายภูริต กล่าวและว่า
ดังนั้นการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวก็คงต้องพัฒนาขีดความสามารถของผู้ประกอบการภายในพื้นที่ควบคู่ไปกับการพัฒนาด้านการตลาด คือการสร้างแรงจูงใจ ที่จะดึงดูดกลุ่มนักท่องเที่ยว พร้อมรองรับการเดินทางเข้ามาอย่างมีประสิทธิภาพ ตรงกันข้ามหากเน้นเฉพาะจำนวนนักท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวโดยหวังว่าจะเพิ่มรายได้นั้น ก็จะส่งผลต่อการสูญเสียทรัพยากรธรรมชาติและอาจสูญเสียในเรื่องของคุณภาพและบริการที่มีมาตรฐาน แต่หากเราลดจำนวนนักท่องเที่ยวลงบางส่วนและเพิ่มขีดความสามารถของคุณภาพและมาตรฐาน เชื่อว่าเราก็ยังสามารถสร้างรายได้ให้สูงขึ้นได้อย่างแน่นอน
ขณะที่ นางสาวพรพรรณ เทพพิพิธ ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด Flying HanuMan กล่าวว่า ตนได้มีโอกาสเข้าร่วมงาน ITB Asia ที่ประเทศสิงคโปร์ มาแล้ว 4 ครั้งด้วยกัน ซึ่งในปีแรกๆ ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก แต่ในแต่ละปีก็จะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นตามลำดับ โดยส่วนหนึ่งหลังจากมีการเจรจาด้านการตลาดแล้วก็จะมีการติดต่ออย่างต่อเนื่อง และติดต่อผ่านทางออนไลน์มากขึ้น ซึ่งจะมีการนำเสนอโปรโมชั่นให้กับกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ในขณะเดียวกัน
สำหรับงาน ITB Asia 2018 ในครั้งนี้ ได้มีกลุ่มตลาดอินเดียเข้ามาติดต่อเยอะมาก รวมถึงตลาดออสเตรเลีย แต่สำหรับกลุ่มลูกค้าตลาดเดิมก็ยังคงมีอยู่เช่นกัน และหากเปรียบเทียบจากปีที่ผ่านมา ได้มีกลุ่มลูกค้าที่มีการเจรจาผ่านทางออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 20% ซึ่งการเดินทางมาร่วมงานในปีนี้ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพราะมีโอกาสพบปะกลุ่มผู้ซื้อรายใหม่และกลุ่มลูกค้ารายเดิม รวมถึงการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านการตลาดท่องเที่ยวจากผู้ประกอบการที่มาร่วมด้วยกันอีกด้วย