ข่าวข่าวต่างประเทศ

แม่ป้อนทุเรียนลูกชาย 5 ขวบ สุดท้ายป่วยเข้าโรงพยาบาล หมอแนะเด็กกินได้ไหม

แม่ป้อนทุเรียนลูกชาย 5 ขวบ สุดท้ายป่วยเข้าโรงพยาบาล หมอแนะ ไม่ควรกินเยอะ เพราะคอเรสเตอรอลสูง ทำให้ท้องผูก เสี่ยงอ้วน

ทุเรียนถือเป็นราชาของผลไม้ บางคนบอกว่าเหม็น แต่บางคนชอบมาก โดยเฉพาะชาวจีน ชอบกินทุเรียนมากถึงขนาดลงทุนบินมาไทยเลยก็มี แต่ถ้ารับประทานมากไป อาจเป็นเช่นเคสนี้ได้

Advertisements

สำนักข่าวจีนรายงาน น้องวาวา วัย 5 ขวบ และคุณแม่ชอบกินทุเรียนมาก ครอบครัวจึงป้อนทุเรียนให้หนูน้อยเป็นจำนวนมาก เพราะคิดว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ ให้กินวันละ 2 เม็ด ติดต่อกันนานถึง 1 สัปดาห์

ไม่นานหลังจากนั้น หนูน้อยเริ่มมีอาการผิดปกติ เช่น เบื่ออาหาร มีอาการคันและไม่สบายที่ฝ่ามือและฝ่าเท้า ไม่ถ่ายท้องหลายวัน และเริ่มมีไข้

เมื่อเห็นอาการผิดปกติของลูก คุณแม่รีบพาไปโรงพยาบาล หลังจากตรวจร่างกายแล้ว หมอบอกว่า สาเหตุมาจากการกินทุเรียนมากเกินไป คุณแม่ยังบอกอีกว่า ตัวเธอเองก็กินทุเรียนเยอะในช่วงหลังๆ จนหน้ามีสิวขึ้นและน้ำหนักเพิ่ม

ควรกินทุเรียนวันละเท่าไหร่ ถึงไม่มากเกินไป?

มีความเชื่อกันในหมู่ชาวจีนว่า ทุเรียนอุดมไปด้วยสารอาหาร คุณค่าทางโภชนาการยอดเยี่ยม ไม่งั้นจะไม่ได้รับขนานนามว่า “ราชาแห่งผลไม้” และดีต่อสุขภาพมาก

Advertisements

แต่ความจริงแล้ว แพทย์กล่าวว่า ทุเรียนก็ยังเป็นเพียงแค่ผลไม้ เมื่อเทียบกับเนื้อสัตว์แล้ว ปริมาณโปรตีนไม่ได้สูง

“ปริมาณผลไม้ทั่วไปที่แนะนำต่อวันสำหรับผู้ใหญ่คือ 200 ถึง 350 กรัม ควรพยายามปรับสมดุลอาหารของคุณเพื่อให้แน่ใจว่าสุขภาพของคุณแข็งแรง”

ส่วนทุเรียน แพทย์แนะนำให้กินวันละไม่เกิน 100 กรัม เนื่องจากทุเรียนมีปริมาณไฟเบอร์สูง การบริโภคในปริมาณที่พอเหมาะสามารถช่วยส่งเสริมการขับถ่ายและการย่อยอาหารได้ แต่ถ้ารับประทานมากเกินไป อาจทำให้ลำไส้อุดตันและลดของเหลวในลำไส้ ทำให้เกิดอุจจาระแห้ง ท้องผูก และอาหารไม่ย่อย

ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีแคลอรีสูง ทุเรียนทุกๆ 100 กรัม มีพลังงานสูงถึง 150 กิโลแคลอรี สูงกว่าปริมาณแคลอรี่ของข้าว 118 กิโลแคลอรี/100 กรัม กินมากเกินไปจะทำให้อ้วน

แม้สารอาหารในทุเรียนจะมีผลต่อร่างกายในระดับหนึ่ง แต่การกินมากเกินไปจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดและคอเลสเตอรอลเพิ่มขึ้น

ทุเรียนยังมีสารฮิสตามีนและสารอื่นๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ในบางคน ทำให้หายใจถี่ มีผื่นขึ้น และมีอาการอื่นๆ นอกจากนี้ ก๊าซไฮโดรเจนซัลไฟด์ในทุเรียนอาจทำให้ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และอาการอื่นๆ ที่ไม่พึงประสงค์อีกมากมายหากรับประทานมากเกินไป

ทุเรียนยังมีสารที่เรียกว่าไทโรซีน มันจะถูกเปลี่ยนเป็นทริปโตเฟนในร่างกายมนุษย์ ซึ่งจะส่งผลต่อการทำงานปกติของระบบประสาท การกินมากเกินไปอาจนำไปสู่อารมณ์แปรปรวน นอนไม่หลับ วิตกกังวล และปัญหาอื่นๆ

ใครบ้างที่ระวังการรับประทานทุเรียน

  • ทุเรียนมีแคลอรีและน้ำตาลสูงมาก จึงไม่เหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่เป็นโรคอ้วน
  • ปริมาณโพแทสเซียมมีมากในทุเรียน ผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับไตควรงดรับประทาน
  • เด็กและสตรีมีครรภ์ก็เป็นหนึ่งในกลุ่มผู้ที่ควรระมัดระวังในการรับประทานทุเรียน

อ่านข่าวที่เกียวข้อง

Aindravudh

นักเขียนประจำ Thaiger มีประสบการณ์เขียนข่าวมากกว่า 5 ปี จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ จากคณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีความสนใจ ประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง เจาะประเด็นข่าวทางสังคม ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น หัวข้อที่เชียวชาญคือเรื่องไลฟ์สไตล์ เลขเด็ด หวยรัฐบาลไทย หวยลาว ช่องทางติดต่อ vajara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button