หมออั้ม ตอบชัด คดี 112 “ทักษิณ ชินวัตร” ไม่โดนถอนการพัก เพราะเหตุเกิดปี 58
“หมออั้ม อิราวัต” ออกมาแสดงความคิดเห็น หลังมีชาวเน็ต หวังให้นายทักษิณ ชินวัตร โดนถอนการพักโทษคดี 112 แต่ไม่เป็นผล เพราะคดีเกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ไม่ใช่คดีที่เกิดขึ้นระหว่างการพักโทษ
เป็นประเด็นขึ้นอีกครั้งหลัง “หมออั้ม อิราวัต อารีกิจ” อดีตนักร้อง และนักเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมืองแนวร่วมม็อบราษฎร โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว พร้อมแคปชั่น “กฎหมายน่ารู้ววววววววว์”…”เห็นคนหวังให้นายทักษิณ ชินวัตร โดนถอนการพักโทษ”
ด้านหมออั้ม จึงออกมาแสดงความเห็นว่า จะไม่มีการโดนถอนพักโทษที่อัยการส่งฟ้องมาตรา 112 เพราะคดีดังกล่าว เป็นคดีที่นายทักษิณ ให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้ โดยพาดพิงสถาบันพระมหากษัตริย์ เกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2558 ไม่ใช่คดีที่เกิดขึ้นระหว่างการพักโทษ
“มีคนหวังให้ทักษิณ โดนถอนการพักโทษ จากที่อัยการส่งฟ้อง112 แต่ไม่โดนจ้า เพราะเป็นคดีเก่าปี 2558 ไม่ใช่คดีที่เกิดระหว่างพักโทษ”
หลังจาก หมออั้ม โพสต์แสดงความเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวไม่ถึงครึ่งวัน มีผู้คนเข้ามาแสดงความเห็นมากมาย โดยมีผู้แสดงความเห็นไปในเชิงหวั่นกลัวว่า นายกทักษิณ จะหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศเหมือนอย่างที่เคยทำมา อยากให้นายทักษิณกลับเข้าสู่กระกวนการยุติธรรม และเมื่อศาลตัดสินแล้วจะไม่ได้รับโทษหรือไม่ได้รับโทษ ก็อยากให้เป็นไปตามนั้น หากต้องรับโทษจำคุกก็อยากให้เข้ารับโทษจริง ไม่อยากให้มีข้ออ้างใด ๆ จนหลุดพ้นโทษอีก
“กลัวอย่าเดียวกลัวท่านจะหนีอีก อยากให้ ท่านยิ่งใหญ่จริงๆคือเขากระบวนการ จริงๆผลออกมาแบบไหนก็รับไปอย่าหลง อ้านาจจนจมไม่ลงผลลับจะตกอยู่กับลูกทั้งหมดค่ะ”
อีกด้านหนึ่งก็มาแสดงความเห็นตอบกลับว่า ความจริงแล้วอดีตนายกไม่ได้หนีคดี แต่ต้องไปปฏิบัติงานเป็นนายรักษาการที่ต่างประเทศ แต่ประเทศไทยตอนนั้นเกิดการปฏิวัติการเมือง นายทักษิณจึงไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้
“เกิดไม่ทันหรืออย่างไร ตอนนั้นทักษิณไม่ได้หนี เค้าไปราชการต่างประเทศ (เป็นนายกรักษาการ) แต่ใน ประเทศมันดันปฏิวัติตอน เค้าไม่อยู่ แล้วไม่ให้เค้า กลับเข้ามาในประเทศต่างหาก”
รวมถึงมีเข้ามาแสดงเห็นไปในทางเดียวกันว่า ทักษิณ ชินวัตรคงไม่หนีคดี เนื่องจากคดีดังกล่าว เป็นคดีที่เกิดขึ้นนอกราชอาณาจักร ในกรณีนี้คือ การให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้ โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายนี้เข้ามาให้ความรู้เรื่องกระบสนการทางกฎหมายเพิ่มเติม โดยคดีนี้มีอัยการในฐานะพยานแผ่นดินเป็นโจทก์ เมื่อมีคำสั่งฟ้องและส่งตัวไปที่ศาส ศาลจะถามจำเลยว่า จะรับหรือปฏิเสธคำฟ้องของโจทก์หรือไม่ ซึ่งในขั้นตอนนี้ถ้าปฏิเสธข้อกล่าวหา ก็สามารถขอประกันตัวเพื่อสู้คดีต่อไป
นอกจากนี้ยังคิดว่า บทสัมภาษณ์ที่นายทักษิณได้ไปสัมภาษณ์มานั้นไม่คิดว่ามีจุดไหนที่เป็นการพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์เลย
ทั้งนี้ ด้าน พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ก็ให้ความเห็นไปในทางเดียวกันว่าเมื่อศาลตัดสินแล้วจะมีหมายศาลคุมขังมา ส่วนเรื่องกระบวนการทางกฎหมายนั้นเป็นหน้าที่ของตำรวจ ในคดีที่นายทักษิณถูกฟ้องเป็นคนละส่วนกัน
ภายหลังมีคำพิพากษา กระทรวงยุติธรรมจึงจะเข้าไปรับผิดชอบ ซึ่งการทำงานของกระทรวงยังยึดหลักว่าตราบใดที่ศาลยังไม่พิพากษาก็ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์
อย่างไรก็ตาม คดีนี้ยังอยู่ในขั้นตอนการดำเนินการทางกฎหมาย ซึ่งยังไม่มีผลสรุปออกผลมาอย่างแน่ชัด ศาลจะเป็นผู้ตัดสินว่าคดีนี้จะจบลงอย่างไร ซึ่งคดีดังกล่าวถือเป็นคดีที่ยืดเยื้อมาอย่างยาวนาน เนื่องจากเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2558 ขณะนี้ 15 ปี แล้วที่เกิดเรื่องนี้ขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง