ทนายยืนยัน ‘ทักษิณ’ ป่วยโควิดจริง มีใบรับรอง ถามกลับรู้ไหมว่าจะป่วยวันไหน?
ทนายยืนยัน ทักษิณ ป่วยโควิดจริง มีใบรับรองแพทย์ ถามกลับรู้ไหมว่าจะป่วยวันไหน เรื่องนี้มันห้ามไม่ได้ ชี้คลิปที่ถูกใช้กล่าวหา เป็นคลิปตัดต่อ
นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ชินวัตร ให้สัมภาษณ์หลังจากที่ สำนักอัยการสูงสุด สั่งฟ้องเอาผิดนาย ทักษิณ ฐานความผิด ม.112 โดยอนุญาตให้เลื่อนฟังคำสั่งเป็นวันที่ 18 มิ.ย. หลังจากที่นายทักษิณป่วยโควิดตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
โดยทนายทักษิณระบุว่า ตามที่สังคมและประชาชนติดตามแถลงข่าวของทีมโฆษกอัยการสูงสุด เป็นเรื่องปกติของกระบวนการยุติธรรม ซึ่งก่อนที่จะสำนักงานอัยการสูงสุด จะมีคำสั่งฟ้องก็ได้ให้โอกาสผู้ต้องหาได้ขอความเป็นธรรม ซึ่งหลังจากที่นายทักษิณเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย ก็ได้มีการยื่นขอความเป็นธรรมในหลายประเด็น ซึ่งต่อไปก็คงจะสามารถเปิดเผยรายละเอียดได้แล้ว
ด้วยการขอความเป็นธรรมของเรา คือเราตั้งข้อสังเกตุและพิรุธ หลักฐาน พยานบุคคล รวมถึงการรวบรวมหลักฐาน และการสั่งของพนักงานอัยการในสมัยของอดีตอัยการสูงสุด เมื่อปี 2559 ซึ่งปี พ.ศ.ดังกล่าวอยู่ในยุคสมัยใดก็ไปตรวจสอบเอง นั่นคือการดำเนินการของอัยการท่านเดิม ซึ่งอัยการท่านใหม่ก็ให้ความเป็นธรรมสอบเพิ่มเติม และมีความเห็นสั่งฟ้อง ในฐานะผู้ต้องหาเราก็ต้องดำเนินการตามสิทธิของเราที่เราจะมีต่อไปตามคดีอาญา ซึ่งจะเป็นเรื่องอะไรยังไม่สามารถบอกล่วงหน้าได้
อย่างไรก็ตาม ณ เวลานี้ นายทักษิณ พร้อมเข้าพิสูจน์ตัวเอง พิสูจน์ความบริสุทธิ์ในกระบวนการยุติธรรม ว่าสิ่งที่ท่านพูดมีเจตนาหรือไม่มีเจตนา กล่าวพาดพิงสถาบันอย่างไร ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของฝ่ายจำเลยในการต่อสู้ต่อไป และต้องขอบคุณสำนักงานอัยการที่ให้โอกาส นายทักษิณ ได้พักรักษาตัวจากการติดโควิด-19 ยืนยันสิทธินี้ไม่ใช่สิทธิพิเศษ เป็นสิทธิปกติของผู้ต้องหา เพราะการป่วยมีใบรับรองแพทย์อย่างชัดเจน
ส่วนประเด็นสังคมสงสัยนั้นห้ามกันไม่ได้ แต่ความสงสัยก็ไม่ใช่ข้อเท็จจริงที่จะนำมาพิสูจน์ หรือให้ตอบ ขออนุญาตตอบเรื่องความสงสัยว่าถือว่าเป็นความสงสัยของแต่ละท่านไป แต่ข้อเท็จจริงที่นำเสนอต่อคณะทีมทำงานของทีมอัยการ คือความจริงที่ปรากฏตามเอกสาร จากสถาบันทางการแพทย์ หรือโรงพยาบาลที่มีแพทย์ มีใบอนุญาตรับรองแล้ว การตรวจก็เป็นการตรวจอย่างถูกต้อง
“ส่วนข้อสงสัยหรือความประจวบเหมาะ หรือห้วงเวลาอย่างใดนั้น ให้คิดง่ายๆ ว่าวันหนึ่งเราตื่นขึ้นมาแล้วปวดหัว เป็นไข้ท่านรู้ไหม ว่าจะต้องเป็นวันนั้น เรื่องนี้มันห้ามไม่ได้ และมันบอกไม่ได้ล่วงหน้า และอย่างหนึ่งที่สามารถคิดตามผมได้คือ ก่อนหน้าวันที่ 15 พ.ค.ท่านได้ไปภารกิจที่จ.นครราชสีมา ท่านได้พบคนจำนวนมาก ผมก็ไม่แน่ใจว่าท่าจะติดเชื้อในเวลานั้นหรือไม่ หลังจากนั้นท่านก็มีอาการ แล้วก็พบแพทย์เท่านั้น” นายวิญญัติ กล่าว
ส่วนอาการติดโควิด-19 ของนายทักษิณอยู่ระดับไหนนั้น นายวิญญัติ กล่าวว่า ณ เมื่อวาน (28 พ.ค.) นายทักษิณ มีไข้ 38 องศา เจ็บคอ และผลตรวจก็อย่างที่ปรากฏ ส่วนวันนี้ตนยังไม่ได้พบนายทักษิณ และเมื่อคืนก็ไม่ได้อยู่ใกล้ชิด ดังนั้นอาการ การรักษา และดำรงชีวิตอยู่อย่างไร ก็คิดว่าเหมือนคนไข้ที่มีอาการไข้ทั่วๆ ไป ผมก็เคยเป็นโควิดมาแล้ว ก็บอกได้ว่าเนื้อตัวร้อน และก็ต้องรักษาตัว กินยาตามแพทย์สั่ง
และการที่นายทักษิณ เคยติดโควิด-19 มาก่อนแล้วเมื่อครั้งอยู่ต่างประเทศ มีอาการหนักจริง แต่ว่าการติดโควิด-19 อีกครั้งก็เป็นเรื่องปกติ หลายคนเป็นหลายครั้งได้ ครั้งนี้จะหนักหรือไม่ ก็ต้องสังเกตอาการต่อไป เพราะหมอบอกว่าให้สังเกตอาการ 7 วัน หลังจาก 7 วันจะมีอาการหรือผลข้างเคียงยังไง ตอบไม่ได้ ซึ่งในฐานะที่ใกล้ชิดก็อยากให้หายป่วยไวๆ ซึ่งตอนนี้พักรักษาตัวที่บ้าน และขอไม่เปิดเผยสถาบันทางการแพทย์ที่ออกใบรับรองแพทย์ให้ แต่ยืนยันว่าเป็นสถาบันที่มีใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ และเป็นสถาบันที่ได้รับความเชื่อถือ ฉะนั้น หากทางพนักงานอัยการไม่เชื่อ ตนเป็นทนายความมา 30 ปีแล้ว ผกติถ้ายื่นใบรับรองแพทย์ส่วนใหญ่ศาลก็เชื่อ ศาลก็ให้ความเคารพ เพราะไม่มีแพทย์คนใดให้คำรับรองเรื่องเท็จ ตนเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่ต้องสงสัยอะไรกันแล้ว
สำหรับการเลื่อนฟังคำสั่งต่อไป 18 มิ.ย.67 นั้น ตนขอตอบว่าเป็นวันที่นายทักษิณมีหน้าที่ต้องมา ส่วนจะมาได้หรือไม่ได้วันที่ 18 ดูกัน เพราะท่านมีเงื่อนไขในการประกันตัว ส่วนจะเกิดอะไรขึ้นขอให้ถึงวันนั้น
นายวิญญัติ กล่าวต่อไปว่า มีหลายประเด็นที่เราต่อสู้ขอความยุติธรรม ยกตัวอย่างเช่น คลิปวิดีโอที่ใช้กล่าวหา เราเห็นว่าไม่ใช่คลิปวิดีโอต้นฉบับที่นายทักษิณ ได้ให้สัมภาษณ์ ณ วันนั้นที่ถูกกล่าวหาจริงๆ และเรามีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ว่าเป็นการตัดต่อ นี่คือพยานหลักฐานที่นำมากล่าวหา ถ้าอัยการตอบคำถามนี้ไม่ได้ต่อศาล ในอนาคตที่จะต้องไปสู้กันในศาล ท่านจะต้องรับผิดชอบ และประการต่อ คลิปหรือพยานหลักฐานที่ผู้ใดมายื่นให้ ก็คือทหาร ทหารเป็นคนมาแจ้งความ ผมไม่ได้โทษทหารทุกคน แต่ถามผู้มากล่าวหา หรืออีกคนที่เป็นตำรวจในขณะนั้นจะรับผิดชอบต่อพยานหลักฐานที่เป็นเท็จอย่างไร คดีไม่หมดอายุความแน่นอน ดังนั้นเราไปสู้กันในศาล
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง