กระบี่ – ตำรวจ สภ.ปลายพระยา ร่วมกับชุดปราบปรายาเสพติด.ภ.จว.กระบี่ และฝ่ายปกครองปลายพระยา ร่วมแถลงผลการจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ภาคใต้ พร้อมของกลาง กว่า 282,000 เม็ด มูลค่ากว่า 15 ล้านบาท และยึดทรัพย์ ร่วม 5 ล้านบาท เผยเปิดเต็นท์รถ และธุรกิจต่างๆ เพื่อฟอกเงิน และใช้วิธีนำยาบ้ามาแลกกับรถยนต์ตบตาเจ้าหน้าที่
เมื่อเวลา14.00 น. วันที่ 30 ต.ค.61 ที่สถานีตำรวจภูธรปลายพระยา จ.กระบี่ นายสมควร ขันเงิน รอง ผวจ.กระบี่ พร้อมด้วย พล.ต.ต.นันทเดช ย้อยนวล รอง ผบช.ภ.8 พ.อ.ชัยพิพัฒน์ รันสูงเนิน รองผอ.กอ.รมน.จ.กระบี่ นายชูศักดิ์ สระมุณี นายอำเภอปลายพระยา พ.ต.อ.พิษณุ พ่วงพร้อม ผกก.สส.ภ.จว.กระบี่ พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ ผกก.สภ.ปลายพระยา พ.ต.ต.อาวุธ ขำแผลง สว.กก.สส.ฯ หน.ชป.ปปส.ภ.จว. กระบี่ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ปลายพระยา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ปลายพระยา ร่วมแถลงข่าว ผลจับกุมเครือข่ายยาเสพติด รายใหญ่ จำนวน 2 คดี ผู้ต้องหา 4 คน ของกลางยาบ้ากว่า 282,000 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 15 ล้านบาท และยึดทรัพย์สินอีกไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท
โดยในคดีแรกมีผู้ต้องหา 3 คน ประกอบด้วย นายขวัญชัย บุญจันทร์ หรือมาร์ค อายุ 33 ปี อยู่ บ้านเลขที่ 29/3 ม.2 ต.หาดทรายรี อ.เมือง จ.ชุมพร นายสุแทน เพ็ชรพวง หรือเปิ้ล อายุ 38 ปีอยู่บ้านเลขที่ 29/6 ม.1 ต.แหลมสัก อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ และนายณรงค์เดช ปานกาญจน์ หรือไข่ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 131 ม.4 ต.สวนแตง อ.ละแม จ.ชุมพร โดยจับกุมได้ที่ บริเวณริมถนนสายนาเหนือ-พนม ม.3 ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ ต่อเนื่อง บ่อเลี้ยงกุ้ง ม.2 ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
ยึดของกลาง ยาบ้า 41 มัด รวม 82,000 เม็ด อาวุธปืนยี่ห้อบาเร็ตต้า พร้อมเครื่องกระสุนปืน 11 นัด รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ ทะเบียน บพ-692 กระบี่ โทรศัพท์มือถือรวม 7 เครื่อง ตรวจยึดทรัพย์ ตามพรบ.ฯ รวมมูลค่ากว่า 5 ล้าน รถยนต์บรรทุก 6 ล้อ 1 คัน ทะเบียน 80 – 9132 สิงห์บุรี รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทะเบียน กฉ 8995 ชุมพร รถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทะเบียน ญง 7514 กรุงเทพ ทองรูปพรรณ น้ำหนักรวมประมาณ 158 บาท ราคา ประมาณ 3,002,000 บาท พระเลี่ยมทอง จำนวน 15 องค์ เงินสด จำนวน 442,900 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินราคาประมาณ 5 ล้านบาท และขายผลจับกุมรายที่ 2 อีก1 คน นายวิสิทธิ์ สุชาติพงศ์ หรือหวา อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช ของกลาง ยาบ้า จำนวน 100 มัดรวมกว่า 200,000 เม็ด โดยจับกุมตัวได้ที่บริเวณริมถนนสายเอเชีย 41 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 15 ต.นาโพธิ์ อ.นาบอน จ.นครศรีธรรมราช
พล.ต.ต.นันทเดช เปิดเผยว่า ก่อนการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เจ้าหน้าที่ชุดจับกุม สืบทราบว่า นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคใต้ คือนายขวัญชัยฯ เข้ามาติดต่อจำหน่ายยาเสพติดในพื้นที่ อ.ปลายพระยา จ.กระบี่ โดยวิธีการจำหน่ายยาเสพติดจะให้ลูกค้าจ่ายค่ายาเสพติด แลกเป็นรถยนต์ เพื่อพบตาเจ้าหน้าที่ จึงได้ร่วมกันวางแผนล่อซื้อจนสามารถจับกุมนายขวัญชัยและนายสุแทน ได้พร้อมของกลาง ยาบ้า 20 มัด จำนวน 40,000 เม็ด และอาวุธปืนพร้อมเครื่องกระสุนปืน
โดยจับกุมได้ที่ ต.เขาต่อ อ.ปลายพระยา จากนั้นขยายผล จับกุมตัว นายวิสิทธิ์ ได้พร้อมของกลาง ยาบ้า 100 มัด รวม 200,000 เม็ด นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากนาย นายขวัญชัยฯ ตรวจยึดยาบ้าอีกจำนวน 21 มัดรวม 42,000 เม็ด ได้ที่ ต.คันธุลี อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี โดยมีนายณรงค์เดช ปานกาญจน์ ทำหน้าที่เฝ้าของกลาง จึงได้จับกุมตัวดำเนินคดี รวมของกลางยาเสพติดที่ตรวจยึดได้ครั้งนี้ ทั้งหมด ยาบ้า 282,000 เม็ด
สำหรับเครือข่ายยาเสพติดกลุ่มนี้ รับของกลางมาจากแหล่งผลิตพื้นที่ประเทศเพื่อนบ้าน(พม่า) และ ได้มีการปรับกลยุทธ์ เพื่อเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เปลี่ยนจากการใช้เงินสดในการซื้อขายยาเสพติด เพื่อตบตาเจ้าหน้าที่ โดยการนำรถยนต์มาแลกกับยาเสพติด จากนั้นผู้ค้ายาเสพติด จะนำรถยนต์ดังกล่าวไปขายกับเต็นท์รถยนต์ต่างๆ เป็นการฟอกเงินรูปแบบหนึ่ง อีกทั้งผู้ต้องหายังนำเงินที่ได้จากการขายยาเสพติดไปลงทุนเปิดกิจการต่างๆ ซึ่งเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมอยู่ระหว่างการสืบสวนติดตามเพื่อดำเนินการยึดทรัพย์สินตาม พรบ.มาตรการป้องกันและปราบปรามฯ ต่อไป
แหล่งข่าว เปิดเผยด้วยว่า จากแนวทางการสืบสวนของเจ้าหน้าที่ทราบว่า ยาบ้าล๊อตใหญ่น้ ถูกนำเข้ามาพักไว้ที่ จ.ชุมพร รวมประมาณ 6,700 มัด หรือ กว่า 13 ล้านเม็ด คิดเป็นมูลค่า กว่า 500 ล้านบาท แต่ได้ถูกทะยอยจำหน่ายไปในพื้นที่ต่างของภาคใต้ จนเกือบหมด เหลือเพียงส่วนที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้เพียง กว่า 2 แสนเม็ดเท่านั้น แต่ก็ถือว่ายังโชคดี ที่ตามตรวจยึดมาได้บางส่วน
