เปิดจดหมาย ‘พิชิต ชื่นบาน’ หลังยื่นลาออก เผยเบื้องหลังการตัดสินใจ
เปิดจดหมาย พิชิต ชื่นบาน หลังยื่นลาออก เผยเบื้องหลังการตัดสินใจ อยากให้ประเทศเดินหน้าต่อ มั่นใจคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายทุกประการ
ผู้สื่อข่าวจากทำเนียบระบุว่า นายพิชิต ชื่นบาน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อลดกระแสความวุ่นวาย และไม่ให้ปัญหาลุกลามไปถึง นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ตามที่มีรายงานไปก่อนหน้านี้นั้น
ล่าสุดมีการเปิดเผยจดหมายยื่นลาออกของนาย พิชิต โดยระบุว่า ข้าพเจ้า นายพิชิต ชื่นบาน ตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ขอยืนยันชีวิตยึดมั่นในความ บริสุทธิ์ทั้งในอดีตและปัจจุบัน ประกอบวิชาชีพด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความเรียบร้อย เมื่อรับตำแหน่งที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ในฐานะฝ่ายกฎหมายทำหน้าที่ครบถ้วนสมบูรณ์ จนได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ด้วยความชอบตามรัฐธรรมนูญและ กฎหมาย
ในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติและ ประชาชนส่วนรวมเป็นที่สำคัญ ข้าพเจ้าเห็นว่าปัญหาของพี่น้องประชาชนยังต้องได้รับการแก้ไขอย่างต่อเนื่อง หลายเรื่อง โดยเฉพาะปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำ รวมทั้งปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจ สังคม การเมือง ตามนโยบายของคณะรัฐมนตรีที่ให้แถลงไว้ต่อรัฐสภา
แต่เมื่อมีการยื่นคำร้องเกี่ยวกับข้าพเจ้า
ถึงแม้ว่าข้าพเจ้าได้ตรวจสอบและเชื่อมั่นโดยสุจริตแล้วว่า ข้าพเจ้ามีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายทุกประการก็ตาม แต่เรื่องนี้ได้มีการพาดพิงไปถึงท่านนายกรัฐมนตรี หัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดินต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้ และไม่กระทบต่อการ บริหารราชการแผ่นดินของนายกรัฐมนตรีที่มีความจำเป็นต้องเดินหน้าด้วยความต่อเนื่อง ข้าพเจ้าจึงไม่ยึดติด กับตำแหน่ง ในลักษณะยึดถือประโยชน์ส่วนตนยิ่งกว่าประโยชน์ส่วนรวม
ดังนั้น โดยหนังสือฉบับนี้ให้ถือเป็นเจตนาของข้าพเจ้าที่มีต่อนายกรัฐมนตรี “ข้าพเจ้า ขอลาออกจากการ ดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี” เพื่อให้นายกรัฐมนตรีเดินหน้าบริหารประเทศต่อไปได้ โดยให้มีผลนับแต่วันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไป
อนึ่ง ข้าพเจ้าขอกราบนมัสการลา พระเถรานุเถระ กรรมการมหาเถระสมาคม พระอาจารย์ที่เคารพนับถือ ข้าราชการ และประชาชน ที่ให้กำลังใจต่อข้าพเจ้ามาโดยตลอด นับแต่นี้ขอใช้โอกาสส่วนตัวทำนุบำรุง พระพุทธศาสนาสืบต่อไปจนชีวิตข้าพเจ้าจะหาไป”
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง