เชฟเคอร์ – เชฟบิว ร่วมเฟรมเคลียร์ดราม่า Hell’s Kitchen Thailand ss1 ผู้เข้าแข่งขันแซะกันเองหลังจบรายการ ยืนยันไม่ได้มีปัญหาภายใน ทุกคนมีมิตรภาพที่ดีต่อกัน วอนหยุดดราม่าแล้วหันมาให้กำลังใจเชฟทุกคนต่อ
สืบเนื่องจากกระแสดราม่าชั่วข้ามคืนหลังจากรายการเฮลส์คิทเช่นไทยแลน์ (Hell’s Kitchen Thailand) ได้ประกาศให้ เชฟบิว ภูเตโช กาญจนกิจติกูล เป็นแชมป์เฮลส์คิทเช่นคนแรกของประเทศไทย และรองแชมป์ คือ เชฟเคอร์ ณัฐศิมาภรณ์ หลักไชย ไปเมื่อคืนวันที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา
ทว่ารายการจบผู้เข้าแข่งขันไม่จบ อยู่ ๆ ก็เริ่มเกิดดราม่าขึ้นจากข้อความโพสต์แขวะเชฟเคอร์ของเชฟพริกเผ็ชและผู้จัดการส่วนตัว รวมถึงกระแสดราม่าที่ผู้เข้าแข่งขันทุกคนถ่ายภาพร่วมกันแต่กลับไม่มีเคอร์ร่วมเฟรม แถมไม่แท็กชื่อหาด้วย จากกรณีเหล่านี้ทำให้แฟนรายการรวมถึงชาวเน็ตต่างก็จับเชื่อมโยงกันไปต่าง ๆ นานา
กระทั่งล่าสุด 20 พ.ค. 67 รายการเที่ยงบันเทิงสด ทางช่อง 7 ก็ได้นำตัวเชฟเคอร์ และเชฟบิว มานั่งประกบคู่กันเพื่อให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับประเด็นร้อนที่เกิดขึ้นหลังจากจบรายการ พร้อมทั้งเคลียร์ใจหมดทุกปัญหาที่เกิดขึ้น
เชฟเคอร์ เปิดใจครั้งแรกว่า หลังจากที่ได้เห็นดราม่าเธอเองก็รู้สึกเสียดายโอกาสที่วันนั้นเป็นวันของเชฟบิวซึ่งได้รับตำแหน่งแชมป์เฮลส์คิทเช่นคนแรกของไทย แต่มันกลับมีดราม่าที่เป็นเรื่องของตัวเธอมากลบกระแสไปเสียหมด อยากให้ทุกคนหยุดดราม่าและหันมาร่วมแสดงความยินดีกับเชฟบิวดีกว่า
ส่วนเรื่องรูปกลุ่มที่ไม่มีตัวเองอยู่นั้นแถมยังไม่ถูกแท็กชื่อหาอีก ส่วนตัวไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว ตนมีนิสัยที่ไม่ชอบสนใจเรื่องของคนอื่นรอบข้าง แต่จะโฟกัสอยู่กับตัวเองและเป้าหมายที่วางเอาไว้เท่านั้น ซึ่งนิสัยตรงนี้แฟนคลับก็จะทราบกันดีอยู่แล้ว
นอกจากนี้เจ้าตัวยังยืนยันอีกด้วยว่าไม่เคยรู้สึกหรือมองว่าตัวเองถูกรังแก เพราะทุกครั้งเมื่อมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นก็จะเผชิญหน้ากับมัน และพร้อมที่จะแก้ไขปรับปรุงในส่วนนั้นพัฒนาให้มันดียิ่งกว่าเดิม จึงไม่ได้ทำให้รู้สึกว่าโดนกลั่นแกล้งอย่างที่แฟนรายการเข้าใจและนำมาเมาท์กัน
สำหรับเรื่องที่ถูกดราม่าทำงานร้านอาหารที่กรุงปารีส ฝรั่งเศสนั้น เชฟเคอร์ก็ยืนยันอย่างหนักแน่นว่าเธอนั้นเรียนจบจากสถาบัน Le Cordon Bleu สาขาปารีส ประเทศฝรั่งเศส ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสถาบันการสอนการทำอาหารที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกจริง และเมื่อเรียนจบก็ได้มีการไปฝึกงานที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในกรุงปารีส และเมื่อจบหลักสูตรการฝึกงานเธอก็ได้รับเงินค่าแรงเล็ก ๆ น้อย ๆ จากเจ้าของร้าน ซึ่งเจ้าตัวปฏิเสธการรับเงินก้อนนั้นไป โดยให้เหตุผลว่า ‘การที่ได้รับโอกาสให้มาฝึกงานที่นี่มันยิ่งใหญ่กว่าเงินก้อนนี้มาก ๆ แล้ว’
เช่นเดียวกับการมาแข่งขันที่ Hell’s Kitchen Thailand เจ้าตัวเผยว่า ไม่ได้มองเรื่องที่ผู้ชนะจะได้รับเงิน 1 ล้านบาท แต่กลับมองว่าโอกาสและประสบการณ์ครั้งหนึ่งในชีวิตเราที่ได้มาเจอกับเฮดเชฟ-ซูเชฟทุกท่าน แค่นี้มันก็ทำให้ความฝันมันประสบความสำเร็จแล้ว
ด้านเชฟบิวเองก็ได้พูดถึงกระแสดราม่าที่เกิดขึ้นด้วยเช่นกันในรายการ เชฟบิวมองว่ามันเป็นแค่ตัวหนังสือที่สื่อสารออกไป หรือความเข้าใจผิดกันเล็กน้อย หรืออาจจะเป็นการหยอกล้อกันเล่น ส่วนตัวเชื่อว่าผู้เข้าแข่งขันทุกคนรักกันหมด เพราะทุกคนผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมาก ๆ สังเกตได้จากทุกครั้งที่มีคนต้องกลับบ้านก็จะเห็นทุกคนร้องไห้กอดกันหมด
ทั้งหมดนั่นมันคือความรักที่เราผูกพันธ์กันในทีมทั้งหมด 16 คน แต่บางทีมันอาจจะมีการล้อกันเล่นผ่านทางตัวหนังสือ ซึ่งเราก็ไม่สามารถรู้ได้ อยากให้ทุกคนใจเย็นลง หันมาให้กำลังใจและเชียร์ผู้เข้าแข่งขันทุกคนดีกว่าให้พวกเขามีกำลังใจในการสร้างสรรค์ผลงานอาหารดี ๆ เพื่อส่งให้ทุกคนได้เห็นจะดีกว่า
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สรุปดราม่า Hell’s Kitchen Thailand ผู้เข้าแข่งขันแซะ “เชฟเคอร์” เกมจบคนไม่จบ!
- ประวัติ “เชฟบิว” จากเด็กผู้หลงใหลในรสชาติ สู่แชมป์ Hell’s Kitchen คนแรกของไทย
- ประวัติ “เชฟเคอร์” รองแชมป์ เฮลล์คิทเช่นไทยแลนด์ ซีซั่น 1 ดีกรีไพรเวทเชฟ
อ้างอิงจาก : FB Dara7_pantip