ประกาศสถาปนาสมณศักดิ์ พระธรรมวชิรมุนี-พระธรรมวัชรบัณฑิต ขึ้นเป็นรองสมเด็จฯ
เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่พระบรมราชโองการ โดยมีการประกาศสถาปนาสมณศักดิ์พระราชาคณะเจ้าคณะรอง พระธรรมวชิรมุนี วัดมหาธาตุฯ เป็น พระพรหมวัชรวิมลมุนี, พระธรรมวัชรบัณฑิต วัดปากน้ำ เป็น พระพรหมวัชรธีราจารย์ โดยระบุว่า
พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ มหิศรภูมิพลราชวรางกูร กิติสิริสมบูรณอดุลยเดช สยามินทราธิเบศรราชวโรดม บรมนาถบพิตร พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว
มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ประกาศว่า โดยที่ทรงพระราชดำริว่า พระสงฆ์ซึ่งดำรงในสมณคุณ มีอุปการะยิ่งแก่การพระศาสนา สมควรจะได้เลื่อนอิสริยฐานันดรในสมณศักดิ์สูงขึ้นมีอยู่ จึงทรงพระกรุณาโปรดสถาปนา
1.พระธรรมวชิรมุนี ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวัชรวิมลมุนี ศรีวิปัสสนาวรนายก ดิลกศาสนกิจพิธาน ปฏิภาณธรรมสาธก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูป
2. พระธรรมวัชรบัณฑิต ขึ้นเป็น พระราชาคณะเจ้าคณะรอง มีราชทินนามตามที่จารึกในหิรัญบัฏว่า พระพรหมวัชรธีราจารย์ มหาจุฬาลงกรณบริหารวรกิจ วิสิฐพุทธธรรมภาณี ศาสตรเมธีญาณดิลก ตรีปิฎกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี สถิต ณ วัดปากน้ำ พระอารามหลวง กรุงเทพมหานคร มีฐานานุศักดิ์ตั้งฐานานุกรมได้ 8 รูป
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 16 พ.ค. 2567 ประกาศ ณ วันที่ 17 พ.ค. 2567 เป็นปีที่ 9 ในรัชกาลปัจจุบัน
พิธีสถาปนานี้ไม่เพียงแต่เป็นการยกย่องและให้เกียรติแก่พระสงฆ์ที่ได้รับการแต่งตั้ง แต่ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของพระมหากษัตริย์ในการส่งเสริมและสนับสนุนการพระศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองต่อไปในอนาคต
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- มีผลแล้ว ราชกิจจาฯ ประกาศ “ปานปรีย์” สิ้นสุด ความเป็นรัฐมนตรี ตั้งแต่ 28 เม.ย. 67
- ราชกิจจาฯ พระราชทานยศตำรวจชั้นนายพล เป็นกรณีพิเศษ 34 ราย ตั้งแต่ 1 ต.ค.66
- ราชกิจจาฯ ออกประกาศ โปรดเกล้า ‘บิ๊กรอย’ นั่งเลขา สมช.