หากเอ่ยชื่อ “หมอเหรียญทอง” หรือ “พลตรี นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ และผู้ก่อตั้งองค์กรเก็บขยะแผ่นดิน หลายคนคงนึกถึงภาพลักษณ์ของชายมาดเข้ม ผู้มีน้ำเสียงหนักแน่นและบุคลิกเด็ดเดี่ยว ซึ่งมักปรากฏบนหน้าสื่อพร้อมกับประเด็นร้อนแรงทางสังคมและการเมือง แต่เบื้องหลังภาพลักษณ์ที่แข็งกร้าวนี้คือชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมาอย่างโชกโชน และเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ จนกลายเป็นบุคคลที่มีบทบาทสำคัญในสังคมไทย
ประวัติ “หมอเหรียญทอง” จากดงนักเลง สู่สนามฟุตบอล
หมอเหรียญทอง หรือ พลตรี นายแพทย์เหรียญทอง แน่นหนา เติบโตในย่านหัวลำโพง ท่ามกลางดงนักเลงในอดีต บิดาของท่านเป็นผู้มีเพื่อนฝูงมากมาย รวมถึงอดีตนักเลงที่เคยถูกปราบปรามในยุค “อันธพาล 2499” ด้วยความเป็นลูกชายคนเดียวในบรรดาพี่น้อง 10 คน ท่านจึงได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากบิดาและบรรดาลูกน้องนักเลง ซึ่งหล่อหลอมให้ท่านมีบุคลิกที่กล้าแกร่งและไม่กลัวใครมาตั้งแต่เด็ก
นอกจากนั้น หมอเหรียญทองยังหลงใหลในกีฬาฟุตบอลอย่างมาก ถึงขนาดเคยเป็น “เด็กเก็บลูกบอล” ข้างสนามศุภชลาศัย และต่อมาได้เป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล ทบ.กลุ่ม 8 ที่สามารถพลิกโฉมทีมจาก “ทีมแจกแต้ม” สู่ทีมที่เข้าชิงชนะเลิศได้อย่างพลิกความคาดหมาย
ประสบการณ์เหล่านี้หล่อหลอมให้หมอเหรียญทองเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ทะเยอทะยาน และไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ติดตัวเขามาจนถึงทุกวันนี้
แม้ในวัยเยาว์ท่านจะไม่ได้เป็นเด็กเรียนเก่ง แต่หมอเหรียญทองก็มีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในชีวิต ท่านเริ่มรับราชการในเหล่าแพทย์ โดยตำแหน่งสุดท้ายคือผู้อำนวยการกองยุทธการทหารบก ก่อนจะลาออกมาบริหารโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ ซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัว ที่นำเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยแล้ว และสมาชิกในครอบครัวยังเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ใน รพ. อีกด้วย
หลังออกจากข้าราชการทหาร หมอเหรียญทองได้ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ สานต่อกิจการครอบครัว
ด้วยความเป็นผู้นำที่เด็ดขาดและกล้าตัดสินใจ หมอเหรียญทองได้สร้างผลงานที่โดดเด่นมากมาย ทั้งในด้านการบริหารโรงพยาบาลและการจัดการปัญหาสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19 ที่ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมของศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.)
อย่างไรก็ตาม หมอเหรียญทอง ได้ปรากฏเป็นที่กล่าวขานบนสื่อสังคมอีกครั้ง จากกรณีดราม่าทำร้ายร่างกายเด็กอายุ 14 ปี ด้วยการตบหน้า เนื่องจากพบว่าวัยรุ่นดังกล่าวแอบสูบบุหรี่ภายในห้องน้ำของโรงพยาบาล ทั้งยังพบว่ามีการแอบซุกซ้อนเฮโรอีน ที่ซื้อมาในราคา 50 บาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานสืบหาข้อเท็จจริงต่อไป
ทั้งนี้ คุณหมอเหรียญทอง เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า ตนยอมรับผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป แต่จะไม่ลั่นวาจาขอโทษใด ๆ ทั้งสิ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “หมอเหรียญทอง” อ้าง กลุ่มล้มล้างหวังยัดคุก-สังหาร จ่อฟ้องกลับแม่เด็ก 14
- ‘หมอเหรียญทอง’ เผยมีขบวนการจะจับตนเข้าคุก ก่อนลงมือสังหารในเรือนจำ
- หมอเหรียญทอง ลั่นไม่ง้อผู้ใช้บริการที่เป็นกุ๊ย เพิ่มค่าปรับเป็น 5 แสน
อ้างอิง : เหรียญทอง แน่นหนา
