รวบยาย 63 ปี รับช่วงต่อขายยาจากลูกชาย เผยไม่เหนื่อยแถมรายได้ดี
ตำรวจรวบยาย 63 ปี ผันตัวจากแม่ค้าส้มตำ มารับช่วงต่อขายยาจากลูกชายที่ติดคุก เผยไม่มีแรงขายส้มตำ แถมรายได้ดี
เพจงานสืบสวน สภ.กุมภวาปี ได้โพสต์ภาพและข้อความว่า #รุ่นใหม่หลบไปรุ่นใหญ่จะเดิน ผลการจับกุมวันที่ 15 พ.ค. 67 1.หญิงไทย อายุ 63 ปี ราษฎรตำบลแชแล พร้อมของกลางยาบ้า 54 เม็ด (จำหน่ายยาเสพติด) เหตุเกิดตำบลแชแล นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป โดยมีคนแชร์และคอมเมนต์ถึงพิษภัยยาบ้ากันเป็นจำนวนมากนั้น จนสร้างกระแสฮือฮานั้น
ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยัง สภ.กุมภวาปี พบกับ พ.ต.ท.อาทิตย์ จันทรา รอง ผกก.สส.สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.สมภูมิ ขันตีกุล สว.สส.สภ.กุมภวาปี พร้อมด้วยตำรวจชุมสืบสวน เพื่อสอบถามถึงคดีดังกล่าว ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นางประยงค์ ทุมพุทธา หรือยงค์ อายุ 63 ปี ฉายา ยายยงค์ส้มตำปลาแดกโหน่งในตำนาน ขณะนี้ตำรวจชุดสืบสวนได้ควบคุมตัวยายยงค์ พร้อมของกลางยาบ้า 54 เม็ด ส่ง ร.ต.อ.ชัยโรจน์ ธีระวรรณวัชร์ รอง สว.สอบสวน สภ.กุมภวาปี ตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (15 พ.ค.67) เพื่อดำเนินคดีในข้อกล่าวหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยตามกฎหมาย” และส่งตัวฝากขังที่ศาลจังหวัดอุดรธานี
พ.ต.ท.สมภูมิ ขันตีกุล สว.สส.สภ.กุมภวาปี เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากช่วงต้นเดือนพฤษภาคม 2567 พ.ต.อ.วิชาญ สุธรรมแปง ผกก.สภ.กุมภวาปี ได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านดอนเงิน ต.แชแล อ.กุมภวาปี ว่ายายยงค์ อดีตแม่ค้าส้มตำปลาแดกโหน่งในตำนาน ลักลอบขายยาบ้าให้กับกลุ่มวัยรุ่น และผู้ใช้แรงงานในหมู่บ้านดอนเงิน และหมู่บ้านใกล้เคียง
หลังจากเมื่อประมาณ 3 เดือนที่ผ่านมา ลูกชายของยายยงค์ ถูกตำรวจสืบสวน สภ.กุมภวาปี จับกุมในข้อหาจำหน่ายยาบ้าแล้ว แต่ยายยงค์ ยังมีพฤติกรรมลักลอบขายยาบ้าต่อจากลูกชาย น่าจะรู้เห็นเป็นใจทำผิดกฎหมายกันทั้งแม่และลูก ชาวบ้านจึงร้องเรียนมายัง สภ.กุมภวาปี พ.ต.ท.อาทิตย์ จันทา รอง ผกก.สส.สภ.กุมภวาปี จึงสั่งการตำรวจชุดสืบสวนหาข่าว โดยการส่งสายลับเฝ้าจับตามอง จนมั่นใจว่ายายยงค์ลักลอบขายยาบ้าต่อจากลูกชายจริง
กระทั่งช่วงเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 15 พฤษภาคม 2567 ตำรวจสืบสวน สภ.กุมภวาปี ได้เข้าจับกุมตัวยายยงค์ ขณะนั่งอยู่บริเวณหลังบ้าน และพยายามจะหลบหนี ค้นในตัวพบยาบ้า จำนวน 54 เม็ด ที่ถูกแพคห่อด้วยพลาสติกใส ห่อละ 1-2 เม็ด อยู่ในกระเป๋าเงินแบบซิป ซุกอยู่ในกระเป๋าเสื้อคลุมด้านซ้าย เตรียมไว้ขายให้ลูกค้ามาซื้อที่บ้านพัก จึงควบคุมตัวพร้อมของกลางมาสอบสวนที่โรงพัก
จากการสอบสวนยายยงค์ให้การรับสารภาพว่า ลักลอบขายยาบ้าจริง โดยขายต่อจากลูกชายที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ เพราะไม่มีคนช่วย และเหนื่อยไม่มีแรงตำส้มตำขายแล้ว จึงรับช่วงต่อจากลูกชาย สั่งยาบ้าจากพ่อค้าวัยรุ่นในตำบลแชแล ครั้งละ 70-100 เม็ด ในราคาเม็ดละ 25 บาท แล้วนำมาแพคห่อด้วยพลาสติกใส 1-2 เม็ด/แพค ในราคาเม็ดละ 40 บาท ตามที่ลูกค้าสั่งซื้อ ตนเห็นว่ารายได้ดี และไม่ต้องเหนื่อย จึงตัดสินใจขายยาบ้ามาได้ 3 เดือนแล้ว หลังจากนี้ตำรวจจะได้ขยายผลการจับกุมคนที่นำยาบ้ามาขายให้ยายยงค์ต่อไป