แสบมาก “หมอปลอม” หลอกคบนักธุรกิจสาว หลงโอน 5 แสน เพราะรัก
นักธุรกิจสาว ร้องขอความยุติธรรม หลังถูกชายอ้างเป็นหมอด้านหัวใจ จบการศึกษาจากต่างประเทศ หลอกให้โอนเงินค่ายา เอาไปรักษาแม่เป็นที่ป่วยเป็นมะเร็ง สูญเงินไปกว่า 500,000 บาท
เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2567 นางเพ่ย นักธุรกิจสาวอายุ 37 ปี เดินทางมาเรียกร้องที่ มูลนิธิรณรงค์ ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังจากที่เธอถูก นายกอล์ฟ (นามสมมติ) โกหกว่าตัวเองเป็น ผศ.นพ.อาจารย์หมอด้านหัวใจ จบจากสหรัฐอเมริกา พร้อมขอให้นางเพ่ยโอนเงิน รวมทั้งหมดกว่า 500,000 บาท ตลอดเวลาที่คบกันกว่า 3 เดือน เป็นค่ายารักษามะเร็งของแม่
นางเพ่ย กล่าวว่า ได้รู้จักกับนายกอล์ฟประมาณช่วงเดือนธันวาคม ปี 2566 โดยนายกอล์ฟได้ทักหาตน พร้อมทักทายแนะนำตัวต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการโชว์ชุดเครื่องแบบทหาร หมอ ป้ายชื่อ รวมถึงบอกว่าตัวเองเึยมีครอบครัวแล้ว ลูกติดหนึ่งคน ประกอบกับแม่ที่ต้องดูแล ซึ่งนางเพ่ยเองก็ยอมรับหลงเชื่อว่าเป็นความจริง
ต่อมาช่วงต้นปี 2567 ทั้งสองตกลงคบเป็นแฟนกัน นายกอล์ฟเดินทางมาอยู่ที่บ้านนางเพ่ย โดยนางเพ่ยเป็นคนคอยช่วยออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ในช่วงเวลานั้น นายกอล์ฟก็กุเรื่องว่าตัวเองจำเป็นต้องใช้เงินไปรักษาแม่ แต่หมุนเงินไม่ทัน จึงขอให้นางเพ่ยช่วย หลังจากนั้นก็มีเรื่องราวให้ใช้จ่ายเพิ่มเติม กว่า 500,000 บาท แต่ที่มีหลักฐานจริง ๆ 430,000 บาท
นางเพ่ยเงินเริ่มหมดไม่มีให้ฝ่ายชาย นายกอล์ฟก็เริ่มเปลี่ยนไป ตีตัวออกห่าง ทำเอานางเพ่ยเครียดจัดกินยานอนหลับจนถูกหามส่งเข้า ICU และด้วยพฤติกรรมต่าง ๆ ทำให้ตนเริ่มค้นหาชื่อนายกอล์ฟในสารบบขอแพทยสภา ปรากฏว่าไม่เจอชื่อฝ่ายชาย เลยแจ้งความกับตำรวจ แต่ถึงกับหน้าซีด เพราะนายกอล์ฟมีประวัติเคยติดคุกคดียาเสพติดในช่วงปี 61 และออกมาช่วงปี 63
นางเพ่ยตัดสินใจไปหานายกอล์ฟที่ออฟฟิศเพื่อเคลียร์ แต่พอเข้าไปกลับเจอชุดชั้นในผู้หญิงเป็นจำนวนมาก ทำให้ทั้งคู่ทะเลาะกันอย่างรุนแรง มีปากเสียงกัน จนสุดท้ายนางเพ่ยขาดสติคว้ามีดแทงนายกอล์ฟได้รับบาดเจ็บ ฝ่ายชายจึงตัดสินใจแจ้งความเอาผิดอดีตแฟนสาว
ทว่า เรื่องราวทั้งหมดกลับเหมือนกับหนังคนล่ะม้วน อ้างอิงข้อมูลจาก สำนักข่าวช่องแปด ระบุว่า นายกอล์ฟเปิดหลักฐานสวนกระแสที่นางเพ่ยกล่าวหาตัวเองตามที่เป็นข่าว เพราะนางเพ่ยเป็นคนติดต่อมาเองในช่วงเริ่มรู้จัก ซึ่งตนเองยอมรับว่าคบกับนางเพ่ยจริง แต่เมื่อนางเพ่ยรู้ว่าตนมีภรรยาเก่าและลูก ก็ตามรังควานไม่หยุด จนหลังผ่านเหตุการณ์ที่ออฟฟิศไป นางเพ่ยยังพยายามบุกรุกบ้านตนถึง 3 ครั้ง ส่งผลให้นายกอล์ฟขอเลิกในท้ายที่สุด พร้อมอ้างว่าตัวเองไม่ใช่หมอกระเป๋า แต่ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องมือแพทย์ก็เท่านั้น
จากการวิเคราะห์ปมดราม่าหลอกลวงระหว่างนางเพ่ยและนายกอล์ฟ คาดการณ์ว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีพฤติการณ์เข้าข่ายคดีความผิดฐานฉ้อโกง มาตรา 341 มีโทษสูงสุดจำคุก 3 ปีและคดีความผิดฐานทำร้ายร่างกาย มาตรา 295 มีโทษจำคุกสูงสุด 2 ปี สุดท้ายผลการตัดสินจะออกมาเป็นแบบไหน จะมาอัปเดตให้ทราบในภายหลังครับ
โทษคดีความผิด ฐานฉ้อโกง มาตรา 341
ผู้ใดโดยทุจริต หลอกลวงผู้อื่นด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จ หรือปกปิดข้อความจริงซึ่งควรบอกให้แจ้ง และโดยการหลอกลวงดังว่านั้นได้ไปซึ่งทรัพย์สินจากผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม หรือทำให้ผู้ถูกหลอกลวงหรือบุคคลที่สาม ทำ ถอน หรือทำลายเอกสารสิทธิ ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฉ้อโกง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
โทษคดีความผิด ฐานทำร้ายร่างกาย มาตรา 295
ผู้ใดทำร้ายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจของผู้อื่นนั้น ผู้นั้นกระทำความผิดฐานทำร้ายร่างกาย โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ‘หมอเหรียญทอง’ เผยมีขบวนการจะจับตนเข้าคุก ก่อนลงมือสังหารในเรือนจำ
- หมอเถื่อนประวัติจบ ปวช. เปิดคลินิกเสริมความงาม ย่านรามอินทรา
- จับ หมอเถื่อนรับฝังมุก หนุ่มดวงแตกเจ้าโลกเน่า-ใช้การไม่ได้