พระวัดดังอุทัยฯ เผยเหตุยอมลาสิกขา หลังอดีตเมียแฉ บังคับวิดีโอสยิวตอนอาบน้ำ
หัวจะปวด สาวร้องสายไหมต้องรอด ถูกพระหนุ่มอดีตสามีบังคับวิดีโอคอลเปลือยตอนอาบน้ำ แอบแคปภาพแบ่งพระรูปอื่นดู ล่าสุดพระหนุ่มเผยภาพลาสิกขา ประกาศพร้อมสึกออกมาสู้คดี
จากกรณี น.ส.มานิตา อายุ 29 ปี ผู้เสียหายชาว จ.กาญจนบุรี เดินทางขอความช่วยเหลือ นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังผู้เสียหายอ้างว่า ถูกพระรูปหนึ่งที่วัดแหนองกระดี่นอก จ. อุทัยธานี ซึ่งเป็นอดีตสามีบังคับให้วิดีโอคอลเปลือยกายขณะอาบน้ำ แถมยังแอบบันทึกภาพจากโทรศัพท์ส่งต่อให้พระรูปอื่นดู
แม้ต่อมา พระสิทธิพล ทองตัน หรือ “พระเผือก” ภิกษุที่ถูกกล่าวหา ได้ออกมาปฏิเสธข่าวดังกล่าว โดยยืนยันเรื่องวิดีโอคอลให้เปลือยกายนั้นไม่เป็นความจริง แต่เป็นฝ่ายอดีตภรรยาที่โทร.มาหาเองขณะที่อาบน้ำ จึงได้ส่งภาพไปเตือนสติว่าไม่ควรทำ และไม่เคยเอาให้พระรูปอื่นดูแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ล่าสุด พระสิทธิพล ได้ลาสิกขาแล้ว เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา
อ้างอิงข้อมูลจากเพจ โหนกระแส หลังสึกเป็นฆราวาส พร้อมกับเก็บของออกจากกุฏิ ตัวของอดีตสามี กล่าวว่า ในใจอยากบวชให้นาน แต่เมื่อมีเรื่องราวที่เกิดขึ้นจนเป็นข่าวดังจึงไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้พระพุทธศาสนามัวหมองรวมถึงทางวัดที่มาบวช จึงตัดสินใจสึกออกมา
ทั้งนี้ทั้งนั้น อดีตสามีย้ำว่าการสึกออกมาไม่ได้หมายความว่า ตนเองจะยอมรับผิดตามที่ถูกกล่าวหา และจากนี้จะขอต่อสู้เรื่องคดีความ โดยจะแจ้งดำเนินคดีกับอดีตภรรยาให้ถึงที่สุด มั่นใจตัวเองมีหลักฐานว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันมาจากอะไร
ทั้งนี้ ผู้เสียหายซึ่งเป็นอดีตภรรยาเคยออกมาให้ข้อมูลก่อหน้านี้ว่า ได้คบหากับอดีตสามีเป็นเวลากว่า 4 เดือน กระทั่งได้ทำการเลิกรากันเนื่องจากปัญหาครอบครัวของฝ่ายชาย ซึ่งถึงแม้ว่าทั้งสองจะเลิกกันแล้ว ฝ่ายชายมักจะพยายามติดต่อหาตนอยู่เสมอ จนกระทั่งเกิดเรื่องต่อมาว่า นายสิทธิพล ได้ทำการโกงเงินจากการเปิดบัญชีม้า ทำให้ถูกผู้จ้างบัญชี ตามทวงคืน จึงตัดสินใจหนีไปบวชเป็นพระที่วัดดังกล่าว ในวันที่ 18 เมษายน 2567
แต่แทนที่จะศึกษาธรรมะ พระเผือกกลับพยายามติดต่อกับผู้เสียหายอยู่ตลอดเวลา คอยแสดงอาการหึงหวงทุกครั้งที่วิดีโอคอลกัน จนล่าสุดได้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น น.ส. มานิตา อดีตภรรยาเลยรู้สึกอับอายมากจึงอยากจะขอความเป็นธรรมให้ตัวเอง.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง