ประวัติ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ลูกชายจอมพลถนอม นายทหารยุค 14 ตุลา
เปิดประวัติเส้นทางชีวิตของ พันเอกณรงค์ กิตติขจร ตัวแทนภาพสะท้อนความผันผวนของการเมืองไทยในยุคสมัยที่การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรงดังเช่นใน เหตุการณ์ 14 ตุลา เขาถือกำเนิดในตระกูลผู้ทรงอิทธิพลทางการเมืองและการทหาร แต่กลับต้องเผชิญกับความขัดแย้งและโศกนาฏกรรมที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตและชื่อเสียงของเขาอย่างไม่อาจลืมเลือน
ประวัติ พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร จากเงาอำนาจสู่สนามการเมือง
พันเอก ณรงค์ กิตติขจร เกิดวันที่ 21 ตุลาคม 2476 เสียชีวิตวันที่ 14 พฤษภาคม 2567 สิริอายุรวม 91 ปี ชื่อนี้คงเป็นที่จดจำของใครหลายคนในฐานะ “ลูกชาย” ของอดีตนายกรัฐมนตรี จอมพลถนอม กิตติขจร และ “บุตรเขย” ของ จอมพลประภาส จารุเสถียร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ผู้ทรงอิทธิพลในยุคสมัยหนึ่ง แต่เบื้องหลังชื่อเสียงและอำนาจที่ได้รับการถ่ายทอดมา ชีวิตของ พ.อ.ณรงค์ กลับไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
ชีวิตวัยเยาว์ในรั้วโรงเรียนนายร้อย
ในวัยเด็ก พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ได้รับการปลูกฝังให้รักและเทิดทูนสถาบันกษัตริย์และกองทัพ เขาเติบโตมาในรั้วโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า (จปร.) สถาบันอันทรงเกียรติที่หล่อหลอมนายทหารผู้จงรักภักดีต่อชาติและราชบัลลังก์ ก่อนจะเดินทางไปศึกษาต่อยังโรงเรียนนายร้อยทหารบกแซนด์เฮิสต์ สหราชอาณาจักร (Royal Military Academy Sandhurst) เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะทางการทหารให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น
เงาแห่งอำนาจและเหตุการณ์ 14 ตุลา
หลังจากสำเร็จการศึกษา พ.อ.ณรงค์ ก้าวเข้าสู่เส้นทางการเมืองและการทหารอย่างเต็มตัว เขาได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในรัฐบาลของจอมพลถนอม กิตติขจร ผู้เป็นบิดา โดยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการตรวจและติดตามผลการปฏิวัติราชการ (ก.ต.ป.) และผู้บังคับบัญชากองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 11 รักษาพระองค์ ซึ่งเป็นหน่วยทหารที่มีบทบาทสำคัญในการรักษาความมั่นคงของรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม อำนาจและอิทธิพลที่เขาได้รับการถ่ายทอดมาจากบิดา กลับกลายเป็นดาบสองคม เมื่อเกิดเหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 การลุกฮือของประชาชนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตยที่จบลงด้วยการปราบปรามอย่างรุนแรงโดยกองทัพ พ.อ.ณรงค์ ในฐานะหนึ่งในบุคคลสำคัญของรัฐบาล ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการสั่งการปราบปรามและละเมิดสิทธิมนุษยชน ด้วยการกราดยิงกระสุนจริงจากเฮลิคอปเตอร์ลงมายังผู้ชุมนุมที่อยู่เบื้องล่าง แม้จะไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน แต่ข้อกล่าวหานี้ก็สร้างรอยด่างพร้อยให้กับชื่อเสียงของเขาและตระกูลกิตติขจร
การกลับสู่ประเทศไทยและเส้นทางการเมืองที่ขรุขระ
หลังจากลี้ภัยออกนอกประเทศ พ.อ.ณรงค์ ได้เดินทางกลับประเทศไทยและพยายามที่จะล้างมลทินให้กับตัวเองด้วยการก้าวเข้าสู่สนามการเมือง เขาเข้าร่วมงานกับพรรคเสรีนิยม และได้รับเลือกเป็น ส.ส. ถึง 2 สมัย แต่เส้นทางการเมืองของเขาก็ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เขาต้องเผชิญกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และการต่อต้านจากกลุ่มคนที่ยังคงจดจำเหตุการณ์ 14 ตุลาคมได้ดี
บทเรียนจากอดีตที่ยังตามหลอกหลอน
พันเอกณรงค์ กิตติขจร เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 สิริอายุรวม 91 ปี ทิ้งไว้เพียงชื่อเสียงและเรื่องราวในอดีตที่ยังคงเป็นที่ถกเถียงและวิพากษ์วิจารณ์
ชีวิตของ พ.อ.ณรงค์ เป็นบทเรียนสำคัญที่สะท้อนให้เห็นถึงความเปราะบางของอำนาจและผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้อำนาจในทางที่ผิด
แม้เวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน บาดแผลจากเหตุการณ์ 14 ตุลา ก็ยังคงเป็นเครื่องเตือนใจให้คนไทยตระหนักถึงคุณค่าของประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน และความสำคัญของการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- สิ้น พ.อ.ณรงค์ กิตติขจร ลูกชายจอมพลถนอม ถึงแก่อนิจกรรม วัย 91 ปี
- ประวัติ “บุ้ง ทะลุวัง” เส้นทางชีวิต จากลูกตุลาการ สู่ผู้ต้องหา ม.112
อ้างอิง : วิกิพีเดีย