เปิดคำสั่งเสีย “บุ้งทะลุวัง” ก่อนตาย ขอบริจาคร่างให้หน่วยงานนี้
เปิดคำสั่งเสียสุดท้ายของ “บุ้งทะลุวัง” ก่อนเสียชีวิต ตั้งใจอุทิศร่างให้คณะแพทย์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
คืบหน้ากรณี น.ส.เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ “บุ้งทะลุวัง” หัวใจหยุดเต้น หมอต้องปั๊มหัวใจยื้อชีวิต รายงานล่าสุด เผยว่านักเคลื่อนไหวทางการเมือง วัย 28 ปี เสียชีวิตแล้วในวันนี้ (14 พ.ค. 67) หลังจาก อดอาหารและน้ำประท้วงนาน 110 วัน เพื่อเรียกร้องให้มีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เดือนกุมภาพันธ์ 2567 บุ้งได้เขียนจดหมาย คำสั่งเสียขอบริจาคร่างกายให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อให้ความรู้แก่สังคมเกี่ยวกับผลกระทบของการอดอาหาร นอกจากนี้ เธอยังแสดงความขอบคุณต่อคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ที่ให้การช่วยเหลือประชาชนมาโดยตลอด รายละเอียดความว่า
“ข้าพเจ้านางสาวเนติพร เสน่ห์สังคม หนังสือฉบับนี้ทำขึ้นเพื่อแสดงเจตนาของข้าพเจ้า ซึ่งถูกคุมขังอยู่ตามหมายขังของศาลอาญากรุงเทพใต้ และขณะนี้กำลังทำการอดอาหารและน้ำเพื่อประท้วงกระบวนการยุติธรรมและเรียกร้องให้มีการปฏิรูประบบตุลาการและกระบวนการยุติธรรมของไทย
ข้าพเจ้าขอแสดงเจตนาต้องการบริจาคร่างกายของตนภายหลังจากที่ตายแล้ว โดยขออุทิศร่างนี้ให้กับคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เพื่อการศึกษาและวิจัย เพื่อนำร่างของข้าพเจ้าไปใช้ทำประโยชน์ เป็นการเผยแพร่ความรู้ถึงสภาวะที่จะเกิดขึ้นกับ ร่างกายของมนุษย์เมื่อเกิดการอดอาหารขึ้น
ในการอุทิศร่างกายดังกล่าว ข้าฯขอความกรุณาคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรุณารับร่างของข้าฯไว้ แม้จะไม่สามารถเดินทางมาติดต่อกรอกข้อมูลและยื่นเอกสารด้วยตนเองได้ ด้วยเหตุผลส่วนตนและเหตุผลจากการที่ถูกคุมขังอยู่ภายใต้การควบคุมของราชทัณฑ์
ทั้งนี้ หากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์จะทำการรับร่างของข้าฯไว้ ก็จักเป็นการขอบพระคุณยิ่ง และต้องขออภัยหากหนังสือแสดงเจตนาของข้าพเข้าได้สร้างความเดือดร้อนให้กับคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรมศาสตร์ โดยประการใด
ขอแสดงความนับถือเป็นอย่างสูง ในกิจการที่คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรมศาสตร์ และโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ได้ยืนหยัดช่วยเหลือประชาชนตลอดมา คุณความดีใดที่ได้จากการอุทิศร่างกายในครั้งนี้ ขอส่งให้กับประชาชนที่ยากลำบากทุกคนและขอให้ไม่มีความเหลื่อมล้ำในประเทศไทยอีกต่อไป”
บุ้งทะลุวัง ถูกคุมขังในข้อหาละเมิดอำนาจศาลตั้งแต่วันที่ 26 ม.ค. 67 และเริ่มอดอาหารประท้วงในวันถัดมา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านไป มีรายงานว่าบุ้งมีอาการอ่อนเพลียอย่างมาก และน้ำหนักตัวลดลงเหลือเพียง 60 กิโลกรัม แม้จะมีนักจิตวิทยาเข้ามาประเมินสภาพจิตใจและสอบถามความต้องการยุติการอดอาหาร แต่เธอยังคงยืนยันที่จะดำเนินการประท้วงต่อไป
เมื่อวันที่ 3 เมษายน กลุ่มทะลุวัง ได้เผยบันทึกเยี่ยม เผยว่า “บุ้งบอกว่ามีอาการท้องเสียตั้งแต่เมื่อคืน จนวันนี้ก็ยัง มีอาการท้องเสียอยู่ แพทย์บอกว่าน่าจะท้องเสียเพราะกินโพแทสเซียม แต่กินแล้วท้องเสียแบบนี้ต้องกินซ้ำใหม่ แพทย์จึงให้กินโพแทสเซียมพร้อมกับเกลือแร่
วันนี้มือชาเท้าชาทั้งวัน และเหนื่อยมากเพราะต้องลุกเข้าห้องน้ำบ่อย ค่าโพแทสเซียมลดลงกว่าเดิมอีกจากอาการท้องเสีย “
อ่านข่าวที่เกียวข้อง