งามหน้า! นักการเมืองดังเมืองคอน เอี่ยวแก๊งคอลเซ็นเตอร์จีนเทา หลอกเงินคนไทย
นครศรีธรรมราช – ตำรวจไซเบอร์ขยายผลทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน พบหลักฐานเชื่อมโยงถึงนักการเมืองท้องถิ่นระดับรองนายกเทศมนตรี ต.จันดี อ.ฉวาง จ.นครศรีธรรมราช และครอบครัว ร่วมขบวนการ สร้างความเสื่อมเสียให้กับวงการเมือง
ล่าสุดวันนี้ (13 พ.ค. 67) ไทยพีบีเอส รายงาน ตำรวจไซเบอร์ หรือ ตร.สอท. นำกำลังตำรวจบุกค้น 3 จุดในพื้นที่ ต.จันดี จังหวัดนครศรีธรรมราช พบโรงแรมร้างที่ถูกใช้เป็นฐานปฏิบัติการขายสินค้าออนไลน์และติดต่อลูกค้าของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงบ้านพักของเครือข่ายนักการเมือง
พล.ต.ต.วิวัฒน์ คำชำนาญ รอง ผบช.สอท. เผยว่า รองนายกเทศมนตรีรายนี้มีส่วนรู้เห็นและให้การสนับสนุนแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน โดยให้เช่าสถานที่เป็นฐานปฏิบัติการและรับผลประโยชน์ตอบแทน นอกจากนี้ สามีและลูกสาวยังมีส่วนเกี่ยวข้องในการจัดหาอุปกรณ์และทำธุรกรรมทางการเงินให้กับแก๊งดังกล่าวด้วย
ตำรวจได้ออกหมายจับผู้เกี่ยวข้อง 7 ราย จับกุมได้แล้ว 4 ราย ส่วนรองนายกเทศมนตรี สามี และลูกสาวไหวตัวหลบหนีไปได้ ซึ่งตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 10 พ.ค. ศูนย์ดำรงธรรม รายงานว่า ตร.ไซเบอร์ สนธิกำลัง สภ.ฉวาง ปกครอง ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุดเป้าหมาย จับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ก่อนรวบผู้ต้องหาชาวจีน 20 ราย พร้อมอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์
จุดแรก เป็น บ้านพูลวิลล่าหรูขนาดใหญ่ ที่อยู่ของหัวหน้าแก๊ง พบชาวจีนกำลังทำงานกับคอมพิวเตอร์ อยู่ในบ้านกว่า 20 คน
จุดที่ 2 เป็นโรงแรม 5 คูหา 4 ชั้น มีห้องพัก จำนวน 22 ห้อง
จุดที่ 3 เป็นห้องแถว ตรวจสอบพบโทรศัพท์นับ 1,000 เครื่อง คอมพิวเตอร์ 15 เครื่อง และที่อยู่ในกล่องยังไม่ได้ประกอบอีกจำนวนหนึ่ง และยังพบบัญชีมีเงินหมุนเวียนในบัญชีเกือบร้อยล้านบาท
จากเบาะแสพบว่าช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 มีกลุ่มเครือข่ายคนไทย และกลุ่มคนจีนประมาณ 20-30 คน ได้ใช้สถานที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งสำนักงานหลอกลวงผู้เสียหายทางโทรศัพท์ หรือแก๊งคอลเซ็นเตอร์ โดยมีการสร้างเรื่องต่างๆ อาทิ ชักชวนให้ร่วมลงทุนในสกุลเงินดิจิทัล ชักชวนให้เล่นการพนันออนไลน์ หลอกลวงให้ซื้อสินค้า
โดยกลุ่มคนร้ายจะสร้างเพจ หรือยิงแอดโฆษณา เพื่อสร้างเรื่องหลอกลวงผู้เสียหายให้หลงเชื่อและโอนเงินให้ แถมยังสร้างเรื่องขึ้นมาอีกชั้นหนึ่งว่าจะมีการว่าจ้างทนายความ เพื่อช่วยเหลือดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่หลอกลวงผู้เสียหายคนดังกล่าว แล้วให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีม้า ที่แก๊งนี้เปิดไว้ในประเทศไทย ทำให้ประชาชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยเฉพาะสาธารณรัฐประชาชนจีน หลงเชื่อได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการตรวจสอบขยายผลขบวนการนี้เพิ่มเติมอีก และจะเปิดแถลงข่าวให้ทราบอีกครั้ง
คดีนี้ถือเป็นอีกหนึ่งกรณีที่สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการแทรกซึมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนในประเทศไทย และการมีส่วนร่วมของบุคคลที่มีชื่อเสียงและอำนาจในท้องถิ่น ซึ่งสร้างความเสียหายและความไม่ปลอดภัยให้กับประชาชน