หญิงไทยวัย 31 ปี เดินทางมาไต้หวันด้วยวีซ่านักท่องเที่ยวเกินกำหนดกว่าสองเดือน ก่อนพบ ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม ตำรวจเร่งล่าตัวแรงงานหญิงข้ามชาติ ทั้งผู้ต้องสงสัยยังเป็นพี่น้องแท้ ๆ ของผู้ตายอีกด้วย สาเหตุเบื้องต้นอาจทะเลากันเรื่องหนี้สินเงินทอง แต่สุดท้าย ตำรวจคุมตัวนายจ้าง หลักฐานมัด
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ที่ผ่านมา หญิงไทยรายนี้ ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือพร้อมระบุตำแหน่งไปยังแฟนหนุ่มซึ่งเป็นแรงงานไทยใน เมืองซินจู๋ แจ้งว่าเธอถูกแรงงานหญิงคนหนึ่งจากบ้านเกิดเดียวกันพาตัวไปยังพื้นที่หนึ่งในภูเขาต้าวูลุ (วูหลุน)
แฟนหนุ่มพยายามติดต่อแต่ไม่เป็นผล จึงรีบแจ้งความและออกตามหาพร้อมเพื่อนอีกสองคน
ทั้งสามคนตามสัญญาณไปยังภูเขาต้าวูลุในเขตเมืองจีหลง และพบร่างของหญิงสาวในช่วงเช้าตรู่วันรุ่งขึ้นบนถนนในเขตอุตสาหกรรม สภาพศพนอนคว่ำหน้าอยู่บริเวณลาดชันที่รกร้าง ห่างจากถนนลงไปกว่า 10 เมตร มีบาดแผลถูกแทงหลายแห่ง แต่ตำรวจสันนิษฐานว่าเสียชีวิตจากการตกจากที่สูงจนเสียเลือดมาก
จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบรอยเลือดจำนวนมากบริเวณทางเดินเท้า ซึ่งคาดว่าเป็นจุดเกิดเหตุแรก ก่อนที่ร่างของผู้ตายจะถูกลากไปทิ้งไว้ในจุดที่พบศพ
ตำรวจเร่งติดตามตัวแรงงานหญิงไทยผู้ต้องสงสัย ซึ่งเป็นพี่สาวของผู้ตาย โดยยังไม่ทราบแน่ชัดถึงสาเหตุของการฆาตกรรมครั้งนี้ เบื้องต้นคาดว่าอาจมาจากปัญหาส่วนตัวหรือเรื่องหนี้สิน
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สืบสวนยังพบมีดและก้นบุหรี่ที่ตรงกับที่พบในที่เกิดเหตุในห้องน้ำสาธารณะใกล้จุดเกิดเหตุ ประมาณ 300 เมตร พร้อมกับเก็บหลักฐานไปตรวจสอบแล้ว คาดว่าทั้งสองคนน่าจะมีปากเสียงกันในห้องน้ำ ก่อนที่ผู้ต้องสงสัยจะลงมือฆ่าอย่างโหดเหี้ยม
ล่าสุด มีอัปเดตข่าวเพิ่มเติมว่า คนร้ายถูกจับกุมตัวได้แล้ว บางสื่อระบุว่า เป็นนายจ้าหญิงของผุ้ตาย นามสกุลแซ่หลิน เบื้องต้นให้การปฏิเสธข้อหาและไม่ให้การใด ๆ ทางอัยการได้ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากมองว่ามีพยานหลักฐานที่ชัดเจนว่าเป็นผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังพบว่านายจ้างมีพฤติการณ์ปกปิดหลักฐานและมีโอกาสหลบหนีหากได้รับการประกันตัว จากนี้ไปจะดำเนินการเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายและสืบหามูลเหตุจูงใจในการลงมือฆาตกรรมครั้งนี้
อ่านข่าวต่างประเทศเพิ่มเติม
