คณะกรรมการตรวจสอบข้อร้องเรียน บ่อขยะเทศบาลเมืองกระบี่ ลุยตรวจ เก็บข้อมูลรายงาน ผวจ.หลังชาวบ้านร้องเรียนส่งกลิ่นเหม็นรบกวนอย่างหนัก ทำชาวบ้านเดือดร้อน 2 หมู่บ้าน พร้อมวางแผนกำจัดขยะระยะยาวในอนาคต ขณะที่ชาวบ้าน ยัน ไม่เอาโรงไฟฟ้าขยะ
วันที่ 20 ต.ค.61 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากมีชาวบ้านจากพื้นที่บ้าน ม.1บ้านในช่อง ต.ทับปริก อ.เมือง จ.กระบี่ และ ม.1บ้านทับไม้ ต.ไสไทย อ.เมือง กว่า 100 ครัวเรือน ร้องเรียนผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดกระบี่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องได้รับความเดือดร้อนจากบ่อกำจัดขยะของเทศบาลเมืองกระบี่ ส่งกลิ่นเหม็นอย่างหนัก และมีน้ำเสียจากกองขยะ ซึมลงใต้ดิน ส่งผลให้บ่อน้ำผิวดินไม่สามารถนำมาบริโภคได้ และไหลลงสู่แหล่งน้ำสาธารณะ สร้างความเดือดร้อนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่โดยรอบบ่อขยะเป็นอย่างมาก
ล่าสุดนายสมควร ขันเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้รับมอบหมายจาก พ.ต.ท.มล.กิติบดี ประวิตร ผวจ.กระบี่ ทำหน้าที่เป็นประธานแก้ไขปัญหาข้อร้องเรียนของชาวบ้านกรณีดังกล่าว โดยได้เชิญตัวแทน 3 ฝ่าย ประกอบด้วย ชาวบ้านที่คัดค้าน เทศบาลเมืองกระบี่ ผู้รับผิดชอบบ่อขยะ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าให้ข้อมูล พร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อกำจัดขยะของเทศบาลเมืองกระบี่ โดยมี พ.อ.ฐากูร ยุทธภูมิภูวดล รอง ผอ.รมน.จ.กระบี่ ทำหน้าที่หัวหน้าคณะเข้าตรวจสอบพื้นที่จริง พร้อมรับฟังปัญหาจากชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ และเทศบาลเมืองกระบี่ ผู้ดูแลบ่อขยะ พร้อมกันนี้ทางมูลนิธิบูรณนิเวศน์ ได้ลงมาร่วมประเมินผลกระทบ พร้อมเก็บตัวอย่างดินและน้ำ ไปตรวจสอบหาสารพิษด้วย
เบื้องต้นจากการลงพื้นที่ตรวจสอบบ่อฝังกลบขยะและรับฟังปัญหาพบว่า การกำจัดขยะไม่สมารถทำได้ตามหลักสุขาภิบาล และกองสูงเป็นภูเขา ซึ่งเกิดจากหลายปัจจัยไม่ว่าจะเป็น เครื่องจักรหลัก ที่มีสภาพการชำรุดบ่อยครั้ง ประกอบกับปริมาณขยะเฉลี่ยในปัจจุบันที่มีมากถึง 170 ตัน/วัน ทำให้ไม่สามารถฝังกลบได้ทัน นอกจากนี้ยังมีน้ำจากกองขยะไหลซึมออกมามีกลิ่นเหม็นอย่างรุนแรง และบางส่วนล้นบ่อบำบัดไหลออกไปยังสวนยางพาราของชาวบ้านทำให้ยืนต้นตายนับร้อยต้น นอกจากนี้ยังมีกรงขังสุนัข ที่เทศบาลจับมาทำหมัน ซึ่งอยู่ในพื้นที่ดังกล่าว พบว่ามีแต่กรงขัง แต่ไม่มีสุนัขอยู่ข้างใน โดยทางเทศบาล ให้เหตุผลว่า เนื่องจากไม่มีคนดูแล จึงต้องปล่อยสุนัขให้อยู่ข้างนอก
พ.อ.ฐากูร ยุทธภูมิภูวดล รอง ผอ.รมน.จ.กระบี่ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่สำรวจ และรับฟังปัญหาในพื้นที่ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นจริงและถูกต้อง รายให้ทาง ผวจ.กระบี่ รับทราบต่อไป เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหา ให้ตรงจุด คาดว่าไม่นานจะสามารถแก้ไขปัญหาเก่าได้หมดไป รวมถึงวางแผนการกำจัดขยะใหม่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตด้วย สำหรับขยะเก่าที่ฝังกลบอยู่ภายในบ่อขยะ มีอยู่ถึง 7 แสนตัน ส่วนขยะใหม่ มีวันละไม่ต่ำกว่า 170 ตัน หากไม่รีบแก้ไข ก็จะกลายเป็นปัญหาขยะล้นเมืองอย่างแน่นอน เพราะบ่อขยะแห่งนี้ รับขยะมาจากท้องถิ่นถึง 10 กว่า แห่ง นอกจากนี้บ่อขยะแห่งนี้ทางเทศบาลมีโครงการจะสร้างโรงไฟฟ้าขยะ ยิ่งทำให้ชาวบ้านเป็นกังวล
ขณะที่ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า สำหรับปัญหาขยะเน่าเหม็น มีกลิ่นและส่งผลกระทบกับชาวบ้าน เริ่มมีมานานร่วม 10 ปี ร้องเรียนมาหลายหน่วยงานก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข และปัจจุบันชาวบ้านก็ยิ่งเป็นกังวล เนื่องจากทางเทศบาลมีโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะ ขึ้นมาอีก ซึ่งขณะนี้ได้มีการประมูลหาผู้รับเหมาก่อสร้างได้แล้ว คาดว่างบลงทุนไม่น้อยกว่า 1 พันล้านบาท ด้วยที่ตั้งที่ห้อมล้อมไปด้วยภูเขา ไม่เหมาะสมกับการสร้างโรงไฟฟ้า ชาวบ้านจะคัดค้านให้ถึงที่สุด
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่ทางคณะลงสำรวจพื้นที่รอบบ่อฝั่งกลบ เมื่อถูกชาวบ้านตั้งคำถาม ถึงปัญหาที่เกิดขึ้น ทางเทศบาลปัดอยู่ตลอดว่า บ่อกำจัดขยะ ไม่ใช่ของเทศบาล แต่เป็นของจังหวัด การแก้ไขปัญหาต่างๆทางจังหวัดต้องลงมาแก้ไข ทั้งที่อำนาจการบริหารจัดการอยู่ที่เทศบาลเมืองกระบี่
