รวบ “มีนพระราม 3” โมเดลลิ่งเก๊-ทรงเอ แฝงตัวไลน์กลุ่มเด็ก N ขยี้กามเหยื่อสาวนับ 100 ราย
ตามรวบ บังมีนพระราม3 ปลอมตัวเป็นโมเดลลิ่งทรงเจ๊ แฝงตัวในไลน์กลุ่มเด็กเอ็น ตุ๋นเหยื่อสาวกว่า 100 คน เสียทั้งเงินเสียทั้งตัว บางรายเกือบคิดสั้นเพราะเป็นเงินทั้งชีวิต
วันที่ 9 พ.ค.67 รายงานจากสืบนครบาล กรณีรวบตัว “มีนพระราม 3” คนร้ายที่แฝงตัวในไลน์กลุ่มเด็กเอ็น ปลอมตัวเป็นโมเดลิ่งทรงเจ๊ เพื่อทักหาสาวที่หางาน โดยออกอุบายแอบอ้างว่ามีลูกค้ารวยสนใจ ก่อนให้เหยื่อไปถอนเงินหมดบัญชี จากนั้นเมื่อเหยื่อถึงที่หมายก็จะแปลงกลายจากโมเดลลิ่งเป็นลูกค้า โอ้อ้วดเป็นเสี่ย แล้วเข้าสู่กระบวนการเผด็จศึก เสียทั้งตัวและตังค์
เหยื่อบางรายเกือบคิดสั้นเพราะเป็นเงินทั้งชีวิต พบมีเหยื่อไม่ต่ำกว่า 50 ราย บางรายไม่กล้าแจ้งความ หวั่นถูกปล่อยคลิปลับ ต่อมามีเหยื่อ 2 ราย ร้องสายไหมต้องรอด จนนำมาซึ่งกาสรไล่ล่าจับกุมตัวคนร้าย
ก่อนจะถูกรวบตัว มีรายงานว่า บังมีนได้ส่งข้อความเย้ยเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วย ว่า “เดี๋ยวไปมอบเอง ไม่ต้องหา จ้งแจ๊ะไรก็หากูไม่เจอหรอก” พร้อมส่งภาพอาวุธปืนลูกโม่ท้าทายเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน วางแผนปล่อยข่าวสับขาหลอกชุดสืบว่าอยู่นนทบุรี แต่เจ้าหน้าที่รู้เบาะแสว่าอยู่เพชรบูรณ์ จนสุดท้ายโดนตำรวจปลุกถึงเตียงในห้องเช่าแห่งหนึ่งใกล้ตัวเมือง
เบื้องต้น มีนพระราม3 หลายคนเรียกติดปากว่า “โมเก๊” หรือ “ทรงเอ” ก็ให้การว่า ตนเองเคยถูกดำเนินคดียาเสพติดมาก่อนหน้านี้เมื่อตอนปี 2559 จากนั้นพ้นโทษปี 62 ออกมาหาเลี้ยงชีพด้วยการส่งอาหาร โดยใช้บัญชีเพื่อนสนิทคอยกดรับงาน
ผู้ต้องหายังพาดพิงไปถึงบุคคลที่สาม คือ นางเอ (นามมติ) โมเดลลิ่งจัดหาเด็ก ซึ่งคนร้ายได้มีโอกาสร่วมงานด้วย ทำให้ได้เรียนรู้งานจนมีความชำนาญก่อนลงมือหลอกเหยื่อ
มีนพระราม3 ยังสารภาพทำมาแล้ว 8 คน แต่ไม่ได้ขโมยเงินหรือข่มขืนตามที่เป็นข่าว เพียงแต่ไม่ชำระค่าบริการให้เหยื่อเท่านั้น เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมตัวส่ง สน.ทุ่งมหาเมฆ เพื่อขายผลพร้อมกับเอาผิดตามกฎหมายต่อไป.
ขณะเดียวกัน เพจ Survive – สายไหมต้องรอด ก็ได้ลงโพสต์อัปเดตคดีนี้เช่นกัน ระบุ “สืบนครบาลรวบ เสี่ยมีน พระราม 3 ผู้ต้องหาชิงทรัพย์ – ข่มขืนฯลฯ สาว PR นับ 100 คน คาที่พัก จ เพชรบูรณ์ เร่งนำตัวเข้ากรุงเทพฯ” โดยในโพสต์ดังกล่าวยังได้ลงภาพใบ้หน้าของคนร้ายซึ่งสวมชุดวินจักรยานยนตร์รับจ้างด้วย.
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง