สำนักสงฆ์ ชี้ไม่เหมาะสม พระกับแม่ชีล้างซวยกลางดึก สั่งสอบเพิ่ม 15 วัน รู้ผล
สำนักงานคณะสงฆ์ ชี้ไม่เหมาะสม กรณีแม่ชีชีกระโดดออกจากกุฏิกลางดึก อ้างมาล้างซวย สั่งสอบหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม รู้ผลใน 15 วัน
จากกรณีที่ คณะกรรมการหมู่บ้าน พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านไผ่ ร่วมกันเข้าตรวจสอบภายในกุฏิเจ้าอาวาสวัดในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น หลังพบพฤติกรรมเจ้าอาวาสพาแม่ชีเข้ามาพักอาศัยกินนอนอยู่ภายในกุฏินานกว่า 1 สัปดาห์ ก่อนที่จะพบหญิงแต่งตัวคล้ายชีกระโดดออกจากกุฏิทางหน้าต่าง โดยเจ้าตัวอ้างว่ามาล้างซวยเพราะขับรถเหยียบแมวมานั้น
ล่าสุด สำนักงานคณะสงฆ์อำเภอบ้านไผ่ ซึ่งอยู่ภายในวัดจันทรประสิทธิ์ ต.ในเมือง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จุดที่ พระครูปริยัติ สารวิสุทธิ์ รองเจ้าคณะอำเภอบ้านไผ่ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสวาท บ้านธาตุ เรียกประชุมคณะสงฆ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดขอนแก่น นายอำเภอบ้านไผ่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งกำนันตำบลบ้านไผ่ ผู้ใหญ่บ้าน บ้านธาตุ ม.5 เพื่อหารือและเพื่อหาข้อสรุปกับเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับพระเอ และแม่ชี
การประชุมเสร็จสิ้นในช่วงเวลา 16.00 น. หลังการประชุมพระครูปริยัติ สารวิสุทธิ์ รองเจ้าคณะอำเภอบ้านไผ่ รักษาการเจ้าอาวาสวัดสวาท บ้านธาตุ กล่าวว่า รายละเอียดอื่นที่เกี่ยวข้องในเหตุการณ์ที่มีการเผยแพร่ตามเฟซบุ๊กและข่าวของสื่อมวลชนนั้น ได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง และพิจารณาความผิดทางวินัย ให้เสร็จสิ้นภายใน 15 วัน ซึ่งในช่วงที่คณะกรรมการกำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงนั้น ได้มีคำสั่งให้พระเอ ย้ายจากวัดเดิมไปอยู่ที่วัดศรีบุญเรือง บ้านเกิ้ง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ไปจนกว่าจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเสร็จสิ้น
และในกรณีที่พระสงฆ์กับแม่ชี หรือประชาชนที่เป็นหญิงในกุฏิยามค่ำคืนนั้น ถือว่าไม่เหมาะสม ญาติพี่น้องก็ควรละเว้น แต่หากมีความจำเป็นก็ควรพบคุยกันในจุดที่มีบุคคลอื่นรู้เห็น ไม่ใช่พบปะพูดคุยในที่ลับ จะถือได้ว่าไม่ถูกต้องไม่เหมาะสม และไม่ควรกระทำเด็ดขาด
ทางด้านนายพิชัย วันตา นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่ากรณีดังกล่าวนั้น ทางอำเภอร่วมกับคณะสงฆ์ได้บูรณาการร่วมกันตรวจสอบ และคณะสงฆ์ จะมีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และในระหว่างนี้มีคำสั่งให้พระมาประจำที่วัดศรีบุญเรือง เพื่อไม่ให้มีการขัดขวางการตรวจสอบข้อเท็จจริง ซึ่งในเบื้องต้นทราบว่าพระได้ออกจากวัดไปแล้ว ส่วนแม่ชีก็ทราบว่าเป็นคนภาคกลาง และตอนนี้ไม่อยู่ที่สถานปฏิบัติธรรม
ส่วนการตรวจสอบนั้น คณะกรรมการก็จะดูด้วยว่า การที่พระกับชี พบกันในเวลาดังกล่าว ถือว่าผิดวินัยสงฆ์หรือไม่ และการที่แม่ชีเข้าไปในวัดในเวลาดังกล่าวนั้น ด้วยสาเหตุใด เพราะขณะนี้ทราบมาว่าทั้งพระและชีได้ปฏิเสธในทุกๆเรื่อง ฉะนั้นเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง จึงมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อหาข้อมูลหลักฐานที่เกี่ยวข้อง ให้รู้ผลภายใน 15 วัน
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- หญิงแต่งตัวคล้ายชี โผล่โดดหน้าต่างกุฏิกลางดึก อ้างมาล้างซวย
- สำนักพุทธเชียงใหม่ ลงพื้นที่สอบวัดฉาว มีภาพเจ้าอาวาสนอนกกเด็กหนุ่ม
- ชาวบ้านเดือดปิดล้อม พระหื่น ลวงเด็ก 13 ไปข่มขืน ก่อเหตุมาแล้ว 4 ครั้ง